น.ส.อัมพาวีร์ ชมภูพงษ์เกษม เลขานุการบริษัทบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ได้แจ้งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ประกาศการร่วมทุนกับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (“DTC”) ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม (Mixed Use Project) ซึ่งประกอบด้วยโครงการศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย ภายใต้ชื่อโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (“DCP”) ซึ่งมีมูลค่าเงินลงทุนตามที่คณะกรรมการบริษัทได้เคยอนุมัติไว้โดยเป็นเงินลงทุนในส่วนของบริษัทจำนวน 17,393 ล้านบาท รายละเอียดปรากฏตามสารสนเทศที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลท.”) เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 นั้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับโครงการ รวมถึงการใช้ศักยภาพของที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2563 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติงบประมาณการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค สำหรับส่วนการลงทุนของบริษัท จำนวน 3,751 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณการลงทุนเดิมที่เคยได้รับอนุมัติจำนวน 17,393 ล้านบาท คิดเป็นงบประมาณการลงทุนใหม่สำหรับส่วนของบริษัท วงเงินไม่เกิน 21,144 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าการลงทุนดังกล่าวมีความเหมาะสม สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยเป็นการอนุมัติแบบมีเงื่อนไขในการเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ DTC มีข้อสรุปที่ชัดเจนจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ DTC สำหรับรายละเอียดการพัฒนาเพิ่มเติมในแต่ละโครงการสรุปได้ดังนี้ การพัฒนาโครงการเพิ่มเติม โดยศูนย์การค้ามีการปรับเพิ่มความต้องการและมาตรฐานในการก่อสร้างและความปลอดภัยให้สูงขึ้น คาดแล้วเสร็จไตรมาส 3/67 ส่วนอาคารสำนักงาน เพิ่ม Roof Top Bar และ Meeting Facilities เพื่อเป็นจุดขายใหม่ให้กับโครงการอาคารสำนักงาน คาดแล้วเสร็จไตรมาสที่ 1/67 ส่วนโรงแรม มีการปรับเพิ่มจำนวนห้องพัก และพื้นที่ก่อสร้าง Gross Floor Area (GFA) การออกแบบห้องพักขนาดใหญ่ให้มีความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับผู้เข้าพัก การปรับปรุงเพื่อให้ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินี คาดแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3/66 ขณะที่ด้านที่พักอาศัย ปรับเพิ่มพื้นที่ก่อสร้าง GFA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สูงขึ้น ปรับตำแหน่งของแบรนด์ให้เป็นระดับ Super Luxury เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น คาดแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/67 ทั้งนี้งบประมาณการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของบริษัทดังกล่าวไม่เป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม)