"รมช.มนัญญา" เตรียมปั้นสหกรณ์ต่อยอดผลผลิตการเกษตร สร้างรายได้เพิ่มมั่นคงในอาชีพให้สมาชิกสหกรณ์
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวมอบนโยบายให้กับสหกรณ์จังหวัด 36 จังหวัด ที่ดำรงตำแหน่งใหม่ ในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารเพื่อการบริหารงานสำนักงานสหกรณ์จังหวัดว่า ขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนงานเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มและมีความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากโครงการที่รัฐบาลให้งบสนับสนุนให้เต็มศักยภาพการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้กับสมาชิกสหกรณ์ให้สูงกว่ารายได้รับซื้อขั้นต่ำ และนำไปสู่การพึ่งพาตนเองของเกษตรกรและการช่วยเหลือกันในหมู่สมาชิกสหกรณ์ โดยใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาช่วยยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น
"ในปีนี้ ดิฉันให้นโยบายกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ว่า จะเน้นเรื่องการต่อยอดการผลิต การแปรรูปสินค้าเกษตรในระบบสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์พึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุดจากโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์การตลาดที่รัฐได้ให้การสนับสนุน ดังนั้น ขอเชิญชวนสหกรณ์ทุกแห่งร่วมกัน มาช่วยกันทำเพื่อพัฒนาสหกรณ์ให้เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์การเกษตรที่จะช่วยกันส่งเสริมการผลิตให้เป็นสินค้าเกษตรปลอดภัย ส่งเสริมให้ใช้ลานตาก เครื่องอบลดความชื้นและเครื่องมือในการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำแบรนด์กันเองเพื่อส่งขายเชื่อมโยง ตลาดโมเดริน์เทรด ขอให้สหกรณ์ช่วยกันทำงานสนับสนุนเกษตรกร และสมาชิกสหกรณ์ ให้ผลิตสินค้าที่ดี ขายได้เงินมากกว่ารอเงินประกันรายได้ราคาสินค้าเกษตรของรัฐเพราะจะเป็นความยั่งยืนในระยะยาว"รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว
นอกจากนั้นในปี 2564 จะเดินหน้าโครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน ระยะที่ 2 เพื่อต่อยอดระยะแรก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นต้นทางที่จะนำคนรุ่นใหม่ ๆ เข้าระบบสหกรณ์เพิ่มมากขึ้น เพราะคนที่เข้าโครงการเรียนรู้ว่าการทำเกษตรแบบผสมผสานสามารถมีรายได้ต่อเนื่องทั้งปีหากมีการวางแผนการผลิตที่ดี
ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมาย และดำเนินงานตามภารกิจกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมถึงการสร้างนักส่งเสริมสหกรณ์รุ่นใหม่ เพื่อให้สอดรับการยุคสมัยที่มีดิจิตอลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น การสร้างขบวนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อให้เป็นเลือดใหม่ของกรมฯ นอกจากนั้นให้เชื่อมโยงการทำงานให้สอดคล้องตามแนวทางตลาดนำการผลิต ตามนโยบายเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด เพราะสองกระทรวงจับมือทำงานร่วมกัน โดยกสส.ถูกวางตำแหน่งให้เป็นฝ่ายตลาด ดูแลเรื่องช่องทาง การจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกร
"ซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ คือ ตลาดที่รมช.เกษตรฯได้มีนโยบายและขับเคลื่อนไว้เพื่อให้เป็นตลาดรองรับการผลิตของสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งพบว่าหลายพื้นที่เดินหน้าได้ด้วยดี และจะเห็นว่าตลาดต้องการสินค้าคุณภาพ แม้จะผลิตจากสหกรณ์ขนาดเล็กก็ตาม ดังนั้น กสส.จะเข้าไปขับเคลื่อนให้สหกรณ์การเกษตรที่ได้รับการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักรทั่วประเทศ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแก่สถาบันเกษตรเพื่อจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร โครงการไทยนิยมยั่งยืน อาทิ โรงอบลดความชื้น โกดัง ลานตาก โรงสี โรงรมยาง ทุกจังหวัดต้องทำงานให้เต็มที่ ต้องเดินไปเชื่อมโยงกับการเกษตรแปลงใหญ่ นิคมสหกรณ์ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานภายนอก เพื่อมาช่วยกันเพิ่มศักยภาพและยกระดับความเข้มแข็งของสมาชิกและการต่อยอดมูลค่าสินค้าเกษตรให้เพิ่มขึ้นในอนาคต"อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว