“บิ๊กป้อม” ยันไม่มี “ส.ส.กทม.”ต่อรองทวงโควต้าเก้าอี้ “รมต.” ด้าน “ปชป.”ส่งชื่อ “สินิตย์” ส.ส.สุราษฎร์ 5 สมัย ถึงมือ “บิ๊กตู่” เผยโผ “ครม.ตู่ 2/4” ลงตัว พร้อมแลกเก้าอี้ “ภูมิใจไทย” ขณะที่“วิปรบ.-วิปวุฒิฯ”เผยรอคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญก่อนลงมติแก้ รธน. วาระ 3 ส่วน “พรเพชร” รับส่อเลื่อนลงมติแก้รธน.วาระ 3 เชื่อหากดันทุรัง เจอยื่นศาลรธน.วินิจฉัยแน่ หวั่นไม่ผ่านส.ว.อาจตกเป็นจำเลย เชื่อไม่มีโหวตคว่ำร่างแน่ “ปารีณา” ลุยยื่นถอนวาระโหวตแก้ รธน.ถึงมือ“ชวน” ขู่ยื่นป.ป.ช.เอาผิดสมาชิกรัฐสภาร่วมโหวตวาระ3 ชี้ขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ “ชวน” ยันเดินหน้าลงมติรธน.วาระ 3 ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่“เพนกวิน” ประกาศอดข้าวประท้วงจนกว่าจะได้ประกันตัว “มวลชน” เดือดเขวี้ยงขวดกลางศาล ส่วน “บิ๊กตู่” เลี่ยงม็อบ! ปรับเส้นทางเข้าทำเนียบฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 มี.ค.64 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวส.ส.กทม.พรรคพปชร. ต่อรองโควตาตำแหน่งรัฐมนตรี ใน สัดส่วนของ กทม.ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังชื่อว่าที่รัฐมนตรีใหม่ไม่สอดคล้องกับระบบโควตา ว่า “ไม่มีๆ ไม่มีแล้ว เมื่อวันที่ 14 มี.ค.เขาออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว ทำไมไม่ดู แล้วมาถาม ยืนยันว่าไม่มี”
ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และส.ส.และมีการโหวตบุคคลที่ได้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี โดยที่ประชุมลงมติเลือก นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เป็นรัฐมนตรี เพื่อมาแทนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลงโดยในช่วงเช้าวันนี้ (15 มี.ค.) ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ในโควตาของพรรคให้นายกฯได้พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งรัฐมนตรีใหม่จะมาเป็นรมช.พาณิชย์เป็นการสลับเก้าอี้กับ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ ที่อยู่ในโควตาพรรคภูมิใจไทย จะย้ายไปดำรงตำแหน่ง รมช.คมนาคม
รายงานข่าวระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งชื่อ นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี 5 สมัย ซึ่งคาดว่าจะได้รับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็นการสลับเก้าอี้กับพรรคภูมิใจไทย โดยแลกกับ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ที่คาดว่าจะไปนั่งในตำแหน่ง รมช.คมนาคมแทน
สำหรับตำแหน่ง ที่คาดว่าจะมีการเสนอชื่อในการปรับ ครม.”ตู่ 2/4 “ นี้ ประกอบด้วย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ คาดว่าจะนั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองเลขาธิการพรรคพปชร. ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คาดว่านั่งเก้าอี้รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามีการสลับเก้าอี้กันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย
ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมวิปวุฒิ ว่า ในที่ประชุมได้มีการเตรียมการประชุมร่วมของรัฐสภาในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ในการลงมติวาระ 3 ของร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีการอภิปรายถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างกว้างขวางและรอบด้าน ซึ่งในเบื้องต้น ขอให้สมาชิก ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ตราบใดที่ยังไม่เห็นคำวินิจฉัยกลาง ก็ต้องรอ
เมื่อถามย้ำว่า จำเป็นต้องให้สมาชิกวุฒิโหวตไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายคำนวณ กล่าวว่า ตามปกติวิปวุฒิทำได้เพียงแนะนำสมาชิกเท่านั้น ส่วนการลงมติอย่างไรเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและใช้วิจารณญาณด้วยตัวของตัวเอง โดยปราศจากการครอบงำของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ส่วน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา และรองประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีมีส.ส.เตรียมเสนอญัต ติให้เลื่อนการโหวตวาระ3 ออกไปก่อนว่า ทำได้ และเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยในที่ประชุมรัฐสภา ดังนั้นในวันที่17 มี. ค. จะมีการถกเถียงในที่ประชุมรัฐสภาเป็นอย่างมาก รวมไปถึงประเด็นว่าจะลงมติวาระ3 หรือไม่ด้วย เพราะได้รับข้อมูลมาทั้ง2 ฝ่าย และมีความเป็นไปได้ที่อาจเลื่อนการพิจารณาออกไป เพราะกฎหมายเปิดช่องไว้
“ในการโหวตวาระ3 มีผลทางการเมืองพอสมควร หากที่ประชุมเห็นชอบวาระ3 และนำไปสู่การบังคับใช้ เชื่อมั่นว่า จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าช้าออกไปอีก แต่หากไม่เห็นชอบโดยเสียง ส.ว.ไม่ถึง84 เสียง จะทำให้ส.ว.ตกเป็นจำเลยของสังคมทันที หากเลือกทางนึ้ ส.ว. จะต้องชี้แจงต่อสังคม”
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะโหวตคว่ำร่าง หรือไม่ร่วมประชุม พรเพชร กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาล ต้องรอคำวินิจกลางก่อนว่าเราควรทำแบบไหน เพื่อให้ถูกต้องถึงจะบอกได้ว่าจะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรม นูญอย่างไร เพราะคำวินิจฉัยกลางมีผูกพันทุกองค์กร ตนคิดว่าเย็นวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะเสร็จ จากนั้นแต่ละพรรคการเมืองก็จะไปประชุมพรรคและวิปรัฐบาลจะนัดประชุมก่อนประชุมในวันที่ 17 มี.ค.เวลา 08.00 น.
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่าน นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ถอนวาระการพิจารณาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ3 ออกจากการประชุมรัฐสภาในวันที่ 17มี.ค.นี้
โดยน.ส.ปารีณา กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้งส.ส.ร.มายกร่างใหม่ทั้งฉบับ ต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อน ดังนั้นที่ประชุมรัฐสภาควรปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าเดินหน้าพิจารณาต่อจะมีปัญหาแน่ ตนจะไปร้องต่อป.ป.ช.เอาผิดกับสมาชิกรัฐสภาที่ลงมติวาระ3 ทำผิดกฎหมายและจริยธรรม ไม่อยากให้รัฐสภาเป็นตัวอย่างไม่ดีที่เมื่อมีมติศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้วก็ต้องปฏิบัติตาม ไม่ใช่ไปเดินหน้าทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ยืนยันจะดำเนินคดีทุกคนกระทำขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าที่ประชุมรัฐสภายืนยันให้มีการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ3 พรรคพลังประชารัฐ จะดำเนินการอย่างไร น.ส.ปารีณาตอบว่า ขึ้นอยู่กับมติวิปรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ3 ถูกจัดในระเบียบวาระเรียบร้อยแล้ว ต้องมีการประชุมในวันดังกล่าว เพื่อลงมติวาระ3 หากจะให้ถอนระเบียบวาระออกไป ต้องทำเป็นญัตติเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ส่วนที่น.ส.ปารีณาทำเป็นหนังสือมานั้น จะแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบต่อไป
ทางด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวยืนยัน ว่า การประชุมร่วมรัฐภา ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุม จึงยังเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ส่วนในที่ประชุมร่วมรัฐสภา จะมีการเสนอขอเลื่อนวาระการลงมติออกไปก่อนหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบเรื่องนี้
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรณี ศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีแกนนำราษฎรชุมนุม 19 กันยายนทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี โดยอ้างเป็นมาตรการป้อง กันไวรัสโควิด-19 แต่ผู้เกี่ยวข้องในคดี ผู้สังเกตการณ์ และผู้เดินทางมาให้กำลังใจส่วนหนึ่งได้เข้าไปในห้องพิจารณาคดี
ต่อมา เวลา 12.00 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำราษฎรนนทบุรี หนึ่งในจำเลย จึงให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการพิจารณาคดีว่า ภายในห้องพิจารณาคดี เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้ขออนุญาตแถลงต่อศาลถึงความอึดอัดที่อยู่ในใจ แต่ศาลไม่อนุญาตให้พูดในที่เปิดเผย จากนั้นมีเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว จึงเกิดความวุ่นวายขึ้น เพนกวินจึงประกาศความอึดอัดใจว่าเหตุใดศาลไม่ให้ประกันตัว ทั้งที่ยังไม่มีคำตัดสิน โดยเทียบเคียงกับคดีกปปส. ที่ตัดสินแล้วว่ามีความผิดแต่ได้ประกันตัว และไม่ต้องตัดผม พร้อมประกาศขอประท้วงด้วยการอดข้าว ดื่มแต่น้ำ จนกว่าจะได้รับการประกันตัว จากนั้นบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีเกิดความวุ่นวายขึ้น มีมวลชนที่ได้เข้าไปร่วมฟังการพิจารณาระบายอารมณ์ด้วยการกรีดร้อง และเขวี้ยงขวดน้ำลงพื้น เจ้าหน้าจึงคุมตัวเพนกวินและจำเลย ลงไปควบคุมที่ห้องควบคุมจำเลยด้านหลัง
นายชินวัตร ระบุด้วยว่า หวังให้ศาลมีความยุติธรรม ไม่เป็นสารตั้งต้น และ ป.อาญา มาตรา 112 เป็นข้อหาที่ทำร้ายประชาชน ส่วนตนเองในช่วงบ่าย ก็จะถูกไต่สวนในคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีถ่ายรูปร่วมกับนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ในห้องเวรชี้ และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย อีกทั้งมีคดีละเมิดอำนาจศาลของนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่ถ่ายรูปนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ผ่านหน้าจอแล้วไปโพสต์อีกด้วย ซึ่งในส่วนของตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่เห็นเจ้าหน้าที่มาเตือนเรา
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ว่า เมื่อเวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยวันเดียวกันนี้ ขบวนรถของนายกฯ เปลี่ยนเส้นทางเข้าทำเนียบฯ ที่ประตู 3 เนื่องจากยังคงมีกลุ่มเดินทะลุฟ้า-กลุ่มพีมูฟ-และเซฟบางกลอย ยังคงปักหลักชุมนุมร่วมกันบริเวณถนนพระราม 5 ติดกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร