ความคืบหน้าการติดตามตัวจระเข้บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เป็นวันที่ 3 ในวันนี้( 15 มี.ค.64 )เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี นำโดยนายนิคม สุขสวัสดิ์ ร่วมกับ ประมงจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ช่วยเหลือนทท.อบจภูเก็ต(ศูนย์ไข่มุก) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดภูเก็ต ทต.ฉลอง เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ทัพเรือภาค 3 และกลุ่มประมงพื้นบ้าน ในต.ฉลอง จัดกำลังพร้อมเรือ 5 ลำ และอุปกรณ์จับจระเข้ เฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณกล่างทะเลอ่าวฉลอง บริเวณด้านหน้าร้านอาหารกันเอง 2 ตั้งแต่ช่วงสาย ที่ผ่านมา โดยมีการใช้กล้องส่องทางไกล โดรน บินค้นหา โดย พบจระเข้ว่ายน้ำอยู่หลายครั้ง แต่เนื่องจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูงจึงต้องรอ
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ระดับน้ำเริ่มลดลง และพบเห็นจระเข้อยู่ในจุดใกล้ชายฝั่งจำนวน 3 ครั้ง จึงทำการยืนยันตำแหน่งก่อนใช้เรือเข้าลงอวนล้อมในทันที จากนั้นได้เพิ่มชั้นอวนเพื่อความแข็งแรง ก่อนจะหยุดรอให้ระดับน้ำทะเลในจุดที่ล้อมอวนลดลง จนเหลือแค่ระดับระดับเอว เหมาะกับการเข้าต้อนจระเข้ จึงให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเดินต้อน และกระชับวงล้อม แต่เมื่ออวนแคบลงจนถึงที่สุดก็พบว่าจระเข้ไม่อยู่ในวงล้อม คาดว่าจะหลุดออกไปได้ เนื่องจากพบร่องรอยการขาดของอวน
ทั้งนี้ นาย นิคม เปิดเผยว่า การล้อมจับครั้งนี้ ได้ดำเนินการไปตามแผนทุกขั้นตอน และแม่นยำ สามารถล้อมจระเข้ให้อยู่ในวงล้อมได้ แต่พบว่าอวนที่ใช้ ทนความแหลมคมของครีบหางจระเข้ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเติม โดยจะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ร่วมกับ นายวัชรินทร์ รัตนชู ประมงจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมวางแผนใหม่ และจะเร่งติดตามตัวจระเข้ต่อเนื่องในคืนนี้
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่นำเรือออกติดตามจระเข้ ได้พบซากปลาขนาดใหญ่เกยอยู่รืมชายหาด อยู่ในสภาพขาดวิ่นเหลือครึ่งท่อน ตรวจสอบพบว่าเป็นปลาโฉมงาม เพิ่งตายเพียงไม่นานเนื่องจากดวงตายังใส สังเกตุบาดแผลอย่างละเอียดพบว่าเป็นร่องรอยถูกฟันของสัตว์ขนาดใหญ่กัด แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นร่องรอยของจระเข้หรือไม่ หรืออาจเป็นรอยฟันปลาขนาดใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่รวมถึงชาวบ้านเองก็ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือของจระเข้
ทั้งนี้ นาย นิคม เปิดเผยว่า การล้อมจับครั้งนี้ ได้ดำเนินการไปตามแผนทุกขั้นตอน และแม่นยำ สามารถล้อมจระเข้ให้อยู่ในวงล้อมได้ แต่พบว่าอวนที่ใช้ ทนความแหลมคมของครีบหางจระเข้ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเติม โดยจะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ร่วมกับ นายวัชรินทร์ รัตนชู ประมงจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมวางแผนใหม่ และจะเร่งติดตามตัวจระเข้ต่อเนื่องในคืนนี้
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่นำเรือออกติดตามจระเข้ ได้พบซากปลาขนาดใหญ่เกยอยู่รืมชายหาด อยู่ในสภาพขาดวิ่นเหลือครึ่งท่อน ตรวจสอบพบว่าเป็นปลาโฉมงาม เพิ่งตายเพียงไม่นานเนื่องจากดวงตายังใส สังเกตุบาดแผลอย่างละเอียดพบว่าเป็นร่องรอยถูกฟันของสัตว์ขนาดใหญ่กัด แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นร่องรอยของจระเข้หรือไม่ หรืออาจเป็นรอยฟันปลาขนาดใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่รวมถึงชาวบ้านเองก็ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือของจระเข้