เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนายสันติ ขันธพิริยะอนันต์ ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มอบตัวต่อสู้คดีแบะร้องขอความเป็นธรรม และกับ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง กรณีถูกดำเนินคดีตามพรบ.คอมพิวเตอร์ จนมีการออกหมายจับและแจ้งข้อหาในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ สุโขทัย และอีกหลายพื้นที่ แต่พบพิรุจหลายประการ และเชื่อว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐสั่งการให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับ และตั้งข้อกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม โดยนำหลักฐานเป็นข้อมูลการโทรศัพท์เเละพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนคู่กรณี รวมถึงข้อความเเชทที่ตนนำมาบอกกล่าวต่อให้กับผู้ปกครองคนอื่นๆ โดยมี พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นตัวเเทนรับเรื่อง
นายสันติ กล่าวว่า ตนยอมรับว่า ที่ถูกจับกุมคดีพื้นที่สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นกรณีเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปีที่เเล้ว ตนเป็นแอดมินเพจสมาคมผู้ปกครองออนไลน์ ราชพฤกษ์ โมเดล โพสต์ลิ้งค์ข่าวของสื่อกรณีที่โรงเรียนระบุหนังสือจะไกล่เกลี่ยความเสียหายกับผู้ปกครอง เรื่องพี่เลี้ยงจุ๋มที่ทำร้ายร่างกายเด็ก ยืนยันว่าเป็นการอ้างอิงข่าวสารที่มีเอกสารชัดเจนเท่านั้น ตนไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือดัดเเปลงข้อความใดเพิ่มเติม ซึ่งตำรวจระบุว่าที่ ทีมผู้บริหารแจ้งความที่นั่น เป็นเพราะไปศึกษาดูงานเเละเพิ่งเปิดเห็นเพจที่โพสต์ดังกล่าว
โดยนอกจากที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเเล้ว ยังพบว่ามีหมายจับในคดีเดียวกันอีก2 พื้นที่คือจังหวัดเชียงใหม่และสุโขทัย ซึ่งผู้แจ้งความเป็นทนายความที่รับมอบอำนาจมาจากผู้บริหารโรงเรียนคนเดียวกัน สิ่งที่น่าสังเกตเเละมีพิรุธคือเหตุใดตนไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน เเต่กลับมีหมายจับออกมา ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าคดีทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่ ตนออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้โรงเรียนออกมารับผิดชอบในกรณีพี่เลี้ยงจุ๋มทำร้ายนักเรียน รวมไปถึงการเรียกร้องตรวจสอบใบวิชาชีพของผู้มาเป็นครู ยอมรับว่าเสียใจที่ก่อนหน้านี้โรงเรียนก็ทำหนังสือเชิญให้ลูกสาวออกจากโรงเรียน เเละหาโรงเรียนใหม่ภายใน 90 วัน โดยอ้างเหตุผลว่าตนโพสต์ข้อความที่เป็นปรปักษ์ต่อโรงเรียน ทั้งที่ความเป็นจริงตนใช้สิทธิการตรวจสอบในฐานะผู้ปกครองที่มีลูกเรียนที่นั่น ถามกลับหากเห็นสิ่งที่โรงเรียนทำไม่ดี เหตุใดตนจึงตำหนิไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ลูกสาวไม่ได้ไปโรงเรียนเเล้ว เพราะตนเป็นห่วงความรู้สึกลูก ทั้งนี้ยืนยันส่วนตัวยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากกระทำผิดจริง
ส่วนที่วันนี้เเต่งกายด้วยชุดนักเรียนเเละมีผ้าขาวม้ามัดมือมา เพราะอยากเเสดงทางสัญลักษณ์ อยากเป็นตัวเเทนของเด็กถามกลับไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ทิศทางสถานศึกษาจะเป็นอย่างไรต่อไป เเละเหตุใด ระบบการศึกษาจึงถูกปล่อยปละละเลย อย่างกรณีโรงเรียนนี้ที่ทำความผิด ผ่านมากว่า 6 เดือน ก็ยังไม่เห็นบทลงโทษใดๆ
ด้านพล.ต.ต.ปัญญา กล่าว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบ โดยจะให้กองปราบปรามทำการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม เเต่ขอตรวจสอบหลักฐาน หากพบว่ามีหมายจับก็พร้อมรับมอบตัว เเละประสานตำรวจพื้นที่คดี จากนั้นจะสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงควบคู่ด้วย