กรมส่งเสริมการเกษตร ชูผลสำเร็จโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ สู่ความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ กรมส่งเสริมการเกษตรได้มุ่งเน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ โดยวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่จะร่วมกันกำหนดเป้าหมายการผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอน จนถึงการเชื่อมโยงตลาดกับภาคเอกชนแบบประชารัฐ การปรับระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ จะก่อให้เกิดความร่วมมือในการผลิต โดยเกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกรในพื้นที่ที่มีการดำเนินกิจกรรมที่ใกล้เคียงกันหรือติดต่อกันเป็นแปลงใหญ่ทำให้เกิดขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น (Economy of Scale) มีการส่งเสริมให้เกษตรกรดำเนินการในรูปแบบกระบวนการกลุ่มที่เข้มแข็ง เช่น กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมีแผนการพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 5 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาด และการบริหารจัดการ ซึ่งผลการดำเนินโครงการมาถึงปัจจุบัน กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีการพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการกลุ่ม การเชื่อมโยงการตลาด พัฒนาศักยภาพของเกษตรกรสู่ Smart Farmer และความเข้มแข็งของเกษตรกลุ่ม องค์กร วิสาหกิจชุมชน การตลาดและเชื่อมโยง การพัฒนา ปัจจุบันมีการรับรองแปลงใหญ่ จำนวน 8,126 แปลง เกษตรกร 451,529 ราย พื้นที่ 7,383,153ไร่ สามารถพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน GAP 139,168 ราย เกษตรอินทรีย์ 20,585 ราย RSPO 3,349 ราย และมาตรฐานอื่น ๆ 13,076 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม 2564) มีการเชื่อมโยงการตลาดโดยเป็นตลาดข้อตกลง 876 แปลง ตลาดอื่นๆ 5,964 แปลง แปลงใหญ่ที่มีตลาดข้อตกลงล่วงหน้า มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีการทำ MOU เชื่อมโยงกับผู้ซื้อรวมทั้งมีตลาด Modern Trade รับซื้อผลผลิต โดยมูลค่าเพิ่มสินค้าแปลงใหญ่ ปี 2559-2562 สามารถลดต้นทุนการผลิต 16,888.76 ล้านบาท เพิ่มผลผลิต 19,291.49 ล้านบาท มูลค่าเพิ่มรวม 36,180.24 ล้านบาท อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า เป้าหมายตาม พรบ. 1,857 แปลง 425.9380 ล้านบาท ได้จัดสรรให้ทางจังหวัดดำเนินการ 2,395 แปลง โดยให้มีการถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรโดยแปลงใหญ่ ปี 2562 จำนวน 650 แปลง เน้นการบริหารจัดการกลุ่ม การเชื่อมโยงการตลาด แปลงใหญ่ปี 2563 จำนวน 776 แปลง เน้นพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการกลุ่ม การเชื่อมโยงการตลาด และแปลงใหญ่ปี 2564 จำนวน 969 แปลง เน้นด้านการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนาศักยภาพของเกษตรกรสู่ Smart Farmer และความเข้มแข็งของเกษตรกลุ่มองค์กร วิสาหกิจชุมชน ต่อไป สำหรับเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อได้ที่ กรมส่งเสริมการเกษตร หรือ สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน