ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของ ดีป้า ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องคือ การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ล่าสุด ดีป้า จึงร่วมกับ 8 พันธมิตร ประกอบด้วย สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง สำนักงานเขตจตุจักร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เปิดตัว โครงการส่งเสริมและจัดแสดงพื้นที่เศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบ (Smart Economy Showcase) ในพื้นที่เขตลาดพร้าว ณ ศูนย์การค้ายูเนียน มอลล์ และเขตปทุมวัน ณ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ ผ่านกิจกรรมในรูปแบบ On Ground และ On Cloud เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายและประชาชนที่สนใจในยุคชีวิตวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล) อย่างแท้จริง โครงการส่งเสริมและจัดแสดงพื้นที่เศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบจะช่วยให้ผู้ประกอบการในทุกภาคธุรกิจสามารถเลือกสรรเทคโนโลยีดิจิทัล 12 ประเภทจากดิจิทัลสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกจาก ดีป้า รวมกว่า 50 ราย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ยกระดับการดำเนินธุรกิจ แก้ไขปัญหาการบริหารจัดการ ขยายตลาด ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับเหล่าผู้ประกอบการ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการจะจัดขึ้นในรูปแบบ On Ground เพื่อสร้างความตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่านการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การสาธิตวิธีใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตในยุคชีวิตวิถีใหม่ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการและดิจิทัลสตาร์ทอัพได้มาพบกัน เพื่อรับคำปรึกษาและทดลองใช้เครื่องมือดิจิทัลในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในรูปแบบ On Cloud ผ่านแพลตฟอร์มของ Zipevent หนึ่งในดิจิทัลสตาร์ทอัพที่ได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโครงการในชื่อ depa Business Matching on Cloud โดยกิจกรรมดังกล่าวมีการนำเสนอโปรโมชันมากมายสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถนัดหมายเจรจาธุรกิจกับดิจิทัลสตาร์ทอัพที่สนใจได้แล้ววันนี้ไปจนถึงวันที่ 23 เมษายนนี้ ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวถือเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและดิจิทัลสตาร์ทอัพ อีกทั้งลดความเสี่ยงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) "กิจกรรมในโครงการส่งเสริมและจัดแสดงพื้นที่เศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบทั้งหมดถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างพื้นที่เศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบในยุคชีวิตวิถีใหม่ อีกทั้งเป็นส่วนช่วยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป โดย ดีป้า คาดว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการจับคู่ธุรกิจมากกว่า 1,000 ราย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท" ด้าน นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ (กลุ่มงานเศรษฐกิจดิจิทัล) ดีป้า กล่าวเสริมว่า นอกจากการบูรณาการการทำงานของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว โครงการส่งเสริมและจัดแสดงพื้นที่เศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนและบุคลากรดิจิทัล (Upskill) ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม (Smart People) และสอดคล้องกับการทำธุรกิจสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ พร้อมสร้างโอกาสในตลาดภูมิภาคผ่าน Digital Transformation Courses หลักสูตรเรียนฟรีและมีใบประกาศนียบัตรให้ที่หยิบยก Pain Point ของธุรกิจอาหาร ธุรกิจการเกษตร และธุรกิจการค้าและบริการ รวมถึงแนวทางการส่งออกมาตีโจทย์และชี้ให้เห็นความสำคัญของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่ง ดีป้า คาดหวังว่าจะมีผู้เข้าถึงหลักสูตรดังกล่าวไม่น้อยกว่า 20,000 คน สำหรับหลักสูตร Digital Transformation Courses จะเผยแพร่ผ่าน YouTube: depa Thailand, Facebook Group: Digital Transformation Courses และ เว็บไซต์ http://www.classwin.com ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายวัชริศ หาญสุทธิวงศ์ 08 3123 0851