พบเรื่องราวชวนขนหัวลุกของอดีตนายทหารชาวราชบุรี ที่รักและอาลัยภรรยาสุดซึ้งถึงกับนำร่างไร้วิญญาณมาสร้างวิมานรักอยู่ด้วยกันที่บ้าน เพื่ออยู่รอลูกชายคนเล็กบวช กลับเจอฤทธิ์ภรรยาเขย่าขวัญสั่นประตูเรียก เล่นเอาขวัญผวาขนหัวลุก เผยถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องก็ให้ไปอยู่วัด                    ( 13 มี.ค. 64 )  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพที่เห็นเป็นบ้านที่ถูกจัดในสไตล์การตกแต่งดอกไม้แห้งออกโทนสีม่วงสวนงามดูคล้ายเหมือนเป็นงานแต่งงาน ที่ พ.อ.ไพรวัน เอี่ยมคะนา อายุ 65 ปี อดีตนายทหาร อยู่บ้านเลขที่ 233/36 หมู่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้ตั้งใจตกแต่งห้องนอนของนางศศิวิมล เอี่ยมคะนา อายุ 55 ปี 10 เดือน มีชื่อเล่นว่า “ บอล ” ที่ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีการตั้งศพสวดพระอภิธรรมอยู่ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองราชบุรีไปแล้วจำนวน 9 คืน  จากนั้นได้นำร่างอันไร้วิญญาณของภรรยาสุดที่รักมาเก็บรักษาไว้ที่บ้านของตัวเอง  โดยจ้างช่างมาตกแต่งสร้างห้องนอนให้อยู่ติดกับห้องนอนของตนเองหมดเงินค่าตกแต่งไปประมาณ 1 แสนบาท  อยากให้เสมือนหนึ่งได้อยู่ในห้องเดียวกัน  มีการตกแต่งดอกไม้สีม่วงที่ มีนกสีขาวแสนสวย  มีรูปภาพสมัยก่อนมีชีวิตได้ไปถ่ายพรีเวดดิ้งพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว เก็บไว้เป็นที่ระลึก ด้านหน้ามีอาหารคาวหวาน น้ำดื่ม จัดเปลี่ยนทุกวัน ส่วนด้านหลังยังมีฉากน้ำตกคล้ายกับลักษณะเสมือนอยู่ในป่าธรรมชาติมีสัตว์ เก้ง กวางมาประดับ  ทำให้เหมือนธรรมชาติจริงมากที่สุด ส่วนด้านหลังจะเป็นโลงศพร่างไร้วิญญาณของภรรยา เพื่อเก็บไว้รอลูกชายคนเล็กเตรียมบวชให้อีกประมาณ 2 ปี                แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นจนทำให้ผู้เป็นสามี  ต้องนอนผวาถึงกับขนหัวลุกนั้น   พ.อ.ไพรวัน เอี่ยมคะนา เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุคือ หลังพระสวดพระอภิธรรมมาได้เป็นคืนที่ 7  ตัวเองนอนอยู่บนโซฟาในห้อง จะมีตู้เสื้อผ้ากั้นติดกับผนังห้องตั้งอยู่   ประมาณตี 2  ได้ยินเสียงหมาหอน จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังอยู่ข้างห้องเล็กน้อย  ก็ไม่ได้สนใจอะไร  จึงนอนดูทีวีไปเรื่อย ๆ  แต่ได้เปิดไฟสว่างไว้ทั้งบ้าน  สักพักจึงได้ยินเสียงคล้ายคนกระชากประตูแรง ๆ ปังๆๆๆ   เป็นสิบครั้ง ต้องพบกับความหวาดผวากันทั้งบ้านไม่ได้หลับไม่ได้นอน ได้ยินเสียงคล้ายคนมาเขย่าประตูห้องนอนอย่างแรงหลายครั้ง เล่นเอาเจ้าของห้องและคนในบ้านต้องวิ่งออกมาจากห้องด้วยความตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับคิดไปต่าง ๆ นานาว่ามันเป็นความฝัน หรือเรื่องจริง หรือ เป็นการละเมอกันไป หลังสอบถามคนในบ้านก็ได้ยินเสียงเหมือนกัน จากนั้นเดินออกไปหน้าห้องและบอกว่า “ ไอ้หมูอ้วน  เล่นกันแรงเกินไปแล้วนะ  ถ้าเล่นกันอย่างนี้อาจจะต้องกลับไปอยู่วัด ”  ด้วยที่กลัวว่าจะสติแตกเป็นคืนทำบุญครบรอบ 7 วัน  วันนั้นเป็นคืนวันพระได้ระวังอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่เคยเชื่อเรื่องวิญญาณ เรื่องผี เพียงแต่คิดว่าเขาน่าจะมาแค่เสียง แค่กลิ่นธูป  แค่กลิ่นดอกไม้ แต่ครั้งนี้ผมเชื่อว่าวิญญาณมีจริง  ก็เลยต้องมาเพิ่มวันสวดมนต์ทำบุญให้เขา เป็นทุกวันพระ   8 ค่ำ และ 15 ค่ำ   ปกติจะสวดกันเดือนละ 2 ครั้ง คิดว่าเขาน่าจะอยู่บ้าน ก็เลยจะเพิ่มให้เป็นเดือนละ 4 ครั้ง เป็นสวดทำบุญทั้งเดือน มีพระ 4 รูป ทุกวันพระ                       ที่บ้านอยู่อยู่กัน 7 คน ชั้นบน 4 คน ชั้นล่าง  3 คน ตัวเองได้เอาหลานมานอนในห้องนอนด้วยอีก 2 คน  แต่ส่วนใหญ่หลานก็จะหลับก่อนทุกที  หลานส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยกลัวกัน วันที่เกิดเหตุยังมียายอีกคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยายที่เลี้ยงลูกชายคนเล็กได้ยินเสียงกระชาก ยายลุกขึ้นมายืนหน้ากระจก  ผมได้ยินยายพูดว่า  “ คุณบอล  ผู้พันเขาน่าจะหลับนะ ฉันได้ยินว่าคุณบอลมา ”  พอสิ้นเสียงยายพูดจบ ก็ได้ยินเสียงกระชากประตูเสียงดังหลายครั้ง  ตอนนี้ยายกลับกรุงเทพฯไปแล้ว  ผมก็ไปบอกยายว่าได้ยินเสียงมั๊ย  ยายบอกว่าได้ยิน  ตนจึงวิ่งออกมายืนอยู่นอกห้อง  แล้วยังบอกไปว่า  “ไอ้หมูอ้วน ถ้าเล่นกันแรงแบบนี้ ต้องกลับวัดไปก่อนแล้วค่อยคุยกันใหม่ ”  ตนเองจึงไปปรึกษาพระ  พระบอกว่าให้อยู่ด้วยกันให้ได้ ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็จะลำบาก  ส่วนตัวเองไม่ได้กลัว แต่จะระวัง  อนาคตถึงแม้ว่าจะเผาร่างไปแล้วอีก 2 ปี ข้างหน้าก็จะคงอยู่จะนำรูปมาเก็บไว้ในห้องเขาตลอดไป  และได้เปิดธรรมะฟังทุกคืน              ด้านนางสมจิตร  เมฆสุวรรณ  คุณยายที่เลี้ยงดูบุตรชายผู้ตาย กล่าวพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า  คืนเกิดเหตุนั้น ตนนอนอยู่นอกห้อง ได้ยินมีการเขย่าประตูหลายครั้ง จึงได้เรียก พ.อ.ไพรวัน   ที่นอนอยู่ในห้องว่า มีคุณนายมา ทำให้ พ.อ.ไพรวันวิ่งออกมาจากห้องนอนไปดูที่ตู้ แต่ก็ไม่พบอะไร  มีเพียงสุนัขหอน จึงแน่ใจว่าเป็นวิญญาณของผู้ตายมาที่บ้าน                    เพราะคืนนั้น  มั่นใจว่าไม่มีใครมาเคาะประตูแน่นอน  อีกทั้งที่บ้านมีรั้วรอบขอบชิด ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบ้าน แต่ก็ไม่พบอะไร  เชื่อว่าวิญญาณมีจริง อีกทั้งยายนอนอยู่นอกห้องยังได้ยินบอกว่าคุณนายมาแล้ว    สำหรับห้องนี้ได้ตกแต่งหมดเงินไปกว่า 1 แสนบาท สไตล์เหมือนอยู่ป่าทำให้ดูไม่น่ากลัว และภรรยาจะชื่นชอบแนวสวยงามแบบนี้  ซึ่งส่วนตัวตั้งใจเก็บร่างภรรยาไว้รอบวชลูกชายคนเล็ก เพื่อให้แม่เขาได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี เขาอยากรออยู่จนลูกชายบวชให้ก่อน  ตอนที่ภรรยาเสียชีวิตมีอายุ  55 ปี  10 เดือน   แต่จะนับเป็นอายุ 56 ปี  ทุกวันได้จุดธูปหน้าศพพูดคุยกัน แต่ถ้าหากยังมาทำให้เกิดความหวดกลัวตกใจขนหัวลุกอีก ก็คงตั้งย้ายศพไปอยู่วัดแทน  ต้องรอถึงวันพระว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรอีกหรือไม่