กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ จัดเทศกาลอะเมซิ่ง สงกรานต์บุรีรัมย์ พรีเซ็นเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง สุดยอดงานสงกรานต์แนวคิดใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปลอดภัยที่สุด และสนุกสนานที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์สาดแสง สาดสี สาดของดี บุรีรัมย์ แต่ไม่สาดน้ำ ตื่นตาไปกับสงกรานต์เรืองแสง คอนเสิร์ตศิลปินดังคับคั่ง พร้อมจัดหนักความบันเทิงทุกรูปแบบ 10 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 6-15 เมษายน 2564 จังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 12 มีนาคม 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทยบอบช้ำอย่างหนัก ซึ่งหลังจากสถานการณเริ่มคลี่คลาย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้เตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นที่การให้การสนับสนุนกับกิจกรรมใหญ่ๆ ที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนงานอะเมซิ่ง สงกรานต์บุรีรัมย์ พรีเซ็นเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง ในครั้งนี้ ซึ่งงานนี้ถือเป็นงานอีเว้นท์ใหญ่ที่จะทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดบุรีรัมย์ และภูมิภาคนี้ ทั้งยังสร้างความมั่นใจให้แก่คนทั้งประเทศในด้านการท่องเที่ยว และเป็นต้นแบบให้กับหลายๆ จังหวัด ในการนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในจังหวัดอย่างมั่นคง ถือเป็นหนึ่งในแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ทางภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมกันสนับสนุน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ มีความปลอดภัย ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เข้มข้น
ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และการบริการที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้เข้ามาสนับสนุนงาน Amazing Songkran Buriram ในฐานะ Title Sponsor ตามกลยุทธ์ Event Marketing ซึ่งเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของไทย โดยใช้เทศกาลงานสงกรานต์ เป็น Game Changer ในการจัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยในการควบคุม บริหารจัดการด้านสาธารณสุขของประเทศไทย โดย ททท. ยังคงดำเนินการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้หลักการผ่อนคลายตามมาตรการของ ศบค. และแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
“เชื่อมั่นว่า การจัดงานตลอดระยะเวลา 10 วันนี้ จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้าร่วมงานในพื้นที่ได้ไม่น้อยกว่า 400,000 คน และสามารถสร้างได้สู่ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงได้ไม่น้อยกว่า 1,936 ล้านบาท อัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,200 บาท/คน/วัน และ ระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 2.2 วัน/ทริป สร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้พี่น้องประชาชนชาวไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างรวดเร็วและร่วมกิจกรรมปีใหม่ไทยในพื้นที่ต่างๆ อย่างมีความสุข มีความปลอดภัย" นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
ขณะที่ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในส่วนของความพร้อมของการจัดงานได้ประสานงานใกล้ชิดกับทางสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ในการวางมาตรการดูแลโควิด-19 อย่างเข้มข้น จัดส่งเจ้าหน้าที่มาประจำตามจุดคัดกรอง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคอยดูแลความปลอดภัยตลอดทั้งงาน สำหรับพื้นที่การจัดงานจะอยู่ที่ช้าง อารีนา และมีการประดับไฟยาวตลอดเส้นทางหลวงหมายเลข 2445 ไปจนถึงวงเวียนพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ซึ่งในขณะนี้ทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีโครงการในการบูรณะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ให้มีความสวยงาม ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมไฮไลท์ต่างๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ขบวนจักรยานบุรีรัมย์ ไบค์ไนท์ ขบวนจักรยานพาเหรดที่ประดับไฟแสงสีสวยงาม ที่เตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปอวดลงในโซเชียลมีเดีย รวมถึงกิจกรรมเทศกาลประกวดโคมไฟ ที่จะให้แต่ละอำเภอได้นำไอเดียการคิดประดิษฐ์โคมไฟมาประกวดกัน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะได้เห็นโคมไฟที่สะท้อนความเป็นวิถีของชาวบุรีรัมย์ ที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหนอย่างแน่นอน รวมถึงบุรีรัมย์ สตรีทฟู้ด ที่รวบรวมอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์มาไว้มากมายหลากหลายเมนู พร้อมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าพื้นถิ่น ของดีบุรีรัมย์มากมาย
ส่วน นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญ และสนับสนุนงานสงกรานต์ บุรีรัมย์เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้ได้จัดแคมเปญและกิจกรรมพิเศษมากมาย เริ่มที่เวที Chang Songkran Buriram ซึ่งขนความบันเทิงมาแบบเต็มพิกัด พร้อมกับศิลปินระดับประเทศและท้องถิ่น มาจัดเต็มตลอด 10 วัน ให้ชาวบุรีรัมย์ได้สนุกกันแบบยาวๆ ทุกวัน ณ บริเวณ Chang Training Ground ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ในวันที่ 10 เมษายน มีคอนเสิร์ตแห่งปีอย่าง Chang Music Connection มาไว้ใน ช้าง อารีนา ซึ่งทุกคนจะได้พบกับ ศิลปินชั้นนำระดับประเทศ พร้อมทั้งสนุกกันอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานที่ภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด และวันที่ 12 เมษายน พบกับงาน บุรีรัมย์มาราธอน พรีเซ็นเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง ระยะฟันรัน ในรูปแบบไนท์รัน ประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ตลอดระยะทาง 4.4 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้วางมาตรการในการคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเข้มงวด โดยได้เตรียมเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในจำนวนที่มากเพียงพอ สำหรับทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิและคัดกรองในทุกๆ จุดเข้าและออกของงาน ซึ่งหากผ่านเกณฑ์ความเสี่ยง ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับการติดสติ๊กเกอร์เป็นหลักฐานยืนยันให้เข้าไปยังบริเวณพื้นที่ของการจัดงานได้ พร้อมกันนี้ได้กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ต้องทำการกักตัว 14 วัน หรือขอให้ตรวจ Rapid Test ที่ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ก่อน โดยนักท่องเที่ยวต้องชำระค่าตรวจคนละ 600 บาท และจะทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบ ก็จะไม่ต้องกักตัวและสามารถเข้าร่วมงานได้ทันที
นอกจากนี้ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่ในการให้คำแนะนำด้านสาธารณสุข เช่น การประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมงานสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ของการจัดงาน และหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เนื่องจากตระหนักถึงบรรยากาศในงานสงกรานต์บุรีรัมย์ ที่จะมีผู้มาร่วมงานร่วมหลายแสนคน ดังนั้นจึงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทางด้านการแพทย์อย่างเต็มที่ และมีศักยภาพเพียงพอในการรับมือกับการมาเยือนของผู้เข้าร่วมกิจกรรมหลายแสนคนตลอด 10 วัน
ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นความพยายามอย่างยิ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นอีกครั้ง ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มข้นและมีมาตรฐาน สามารถเป็นต้นแบบในการจัดงานขนาดใหญ่ ที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ซึ่งตลอดการจัดงาน 10 วัน ได้เตรียมกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย โดยจะประเดิมกิจกรรมด้วยการทำบุญเบิกบ้าน ลูกหลานรัชกาลที่ 1 ในวันที่ 6 เมษายน 2564 ณ บริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 พิธีเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์ 2,564 รูป เพื่อเป็นสิริมงคล ต่อเนื่องด้วยพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ในช่วงค่ำ ณ ลานหน้าช้าง อารีนา





