วันที่ 12 มีนาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการแถลงข่าวถึงสาเหตุการเลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะประเดิมเป็นเข็มแรก ว่า ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ โดยมีการรายงานผลข้างเคียง หรืออาการไม่พึงประสงค์ และให้ชะลอฉีดไป 2 สัปดาห์ ดังนั้นเมื่อตนทราบข่าวจึงเรียกคณะแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญประชุมตั้งแต่ 07.00 น. (12 มี.ค.) และมีข้อสรุปว่าเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจของประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ไม่รุนแรงและสามารถควบคุมได้ จึงเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้กับประชาชน รวมถึงการชะลอฉีดให้นายกฯ ออกไป เพื่อรอดูการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุโรป เพิ่มความมั่นใจให้กับทุกๆ ฝ่าย
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อสรุปกันได้แล้ว จึงได้โทรแจ้งนายทหารคนสนิทของท่านนายกฯ เพื่อเลื่อนการฉีดวัคซีนให้ท่านไปก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความความปลอดภัย โดยท่านนากยกฯ ได้ปล่อยให้เป็นมติของคณะแพทย์ในการตัดสินใจ ทั้งในเรื่องท่านจะฉีดได้หรือไม่ เนื่องจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นชนิดใหม่ ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะแพทย์ในการตัดสินใจว่าฉีดได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล โดยระบุว่า ความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน การเลื่อนฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้แก่นายกรัฐมนตรีวันนี้เป็นไปตามการวินิจฉัยของคณะแพทย์ เนื่องจากมีการรายงานผลข้างเคียง หรืออาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับการฉีดวัคซีนมาก่อน และมีการชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในบางประเทศ เพื่อรอผลการสอบสวน และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม
โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ข้อมูลนี้เพิ่งได้รับรายงานเมื่อค่ำวานนี้ และคณะแพทย์ได้พิจารณากันอย่างจริงจัง ตามข้อมูลที่ได้รับจากต่างประเทศ จนได้ข้อสรุปว่า จะชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไว้ระยะหนึ่ง เพื่อรอผลการสอบสวนอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดก่อน
“คณะแพทย์ยืนยันว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และได้รับมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก ฉีดไปแล้วมากกว่า 30 ล้านโดส และมีการสั่งซื้อมากกว่า 3,000 ล้านโดส"
“คณะแพทย์ยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนที่จะได้รับวัคซีนสูงสุด จึงให้ชะลอไว้ก่อน แม้ว่าวัคซีนที่ใช้ในยุโรปกับ วัคซีนที่ส่งมาประเทศไทยเป็นคนละล็อต และมาจากคนละโรงงาน แต่เมื่อมีรายงานอาการที่ไม่พึงประสงค์ แม้จะยังไม่ยืนยันว่าเป็นผลจากวัคซีน โดยตรงก็ตาม การชะลอ หรือหยุดฉีดวัคซีน ชั่วคราว เพื่อสอบสวนหาข้อมูลเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนใหม่ และการฉีดวัคซีนในวงกว้างระดับประเทศ และระดับโลก ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิดอื่นๆ ในบางประเทศก็เคยหยุด หรือชะลอ เพื่อรอผลการสอบสวนมาแล้ว ก่อนจะกลับมาฉีด เมื่อมีความมั่นใจในผลการสอบสวนว่าไม่ใช่ผลจากวัคซีน” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวอีกว่า นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของการใช้วัคซีนแบบสถานการณ์ฉุกเฉิน หากมีอาการไม่พึงประสงค์ แม้จะไม่ชัดเจนว่ามาจากวัคซีนหรือไม่ คณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลจะมีคำสั่งให้หยุดการฉีดวัคซีนไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน
“นายกรัฐมนตรี ในฐานะประชาชน ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมการฯเช่นเดียวกัน วันนี้จึงยังไม่มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศไทย จนกว่าจะมีผลการสอบสวนชัดเจนว่ามีความปลอดภัย หรือหากมีผลข้างเคียง จะมีแนวทางแก้ไข ป้องกัน อย่างไร จึงปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชน โดยคาดว่าการสอบสวนในยุโรปจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป ในช่วงนี้ยังมีการฉีดวัคซีนซิโนแวคตามแผนเดิม" นายอนุทิน กล่าว