วันที่ 12 มี.ค.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเตือนภัยเงินกู้ออนไลน์ โดยการส่งลิงก์ผ่าน SMS หลอกว่าได้สิทธิ์กู้เงิน หลอกโอนค้ำประกันแล้วหลบหนีไป ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การหลอกลวงในรูปเเบบใหม่เเต่อย่างใด เป็นการหลอกลวงที่มีมานานเเล้ว เป็นการกระทำแบบเดิมๆ หลอกลวงเเบบเดิมๆ เปลี่ยนชื่อแอปพลิเคชันแล้วหลอกใหม่ วิธีการของมิจฉาชีพคือจะส่งลิงก์ที่เเนบไปกับข้อความ หลอกว่าท่านได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ได้รับเงิน ได้สิทธิกู้เงิน ได้ส่วนลดต่างๆ นาๆ เมื่อเหยื่อลงเชื่อก็จะคลิกลิงก์เข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ จากนั้นมิจฉาชีพก็จะติดต่อมา อ้างว่าการกู้เงินต้องมีเงินคำประกัน หรืออ้างว่าคนเยอะเป็นค่าลัดคิว หลอกต่อว่าถ้าอยากได้เงินเร็วต้องโอนเงินมาเพิ่มอีก เมื่อมิจฉาชีพได้เงินเเล้ว ก็หลบหนีไป ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ "ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ระวัดระวังการกู้เงินในลักษณะดังกล่าว ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดีเสียก่อนว่าเชื่อถือหรือไม่ หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่น่าสงสัยหรือไม่ทราบแหล่งที่มา หากจำเป็นควรเลือกกู้เงินกับสถาบันการเงินหรือธนาคารจะดีที่สุด อย่ากรอกข้อมูลส่วนตัวใดๆ ลงในลิงก์ หรือแอปพลิเคชัน เนื่องจากอาจจะเป็นช่องทางของกลุ่มมิจฉาชีพทำขึ้นใช้ในการล้วงข้อมูลส่วนตัวก่อนนำไปหาประโยชน์ในทางมิชอบ ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวนที่ดีเกินจริง ควรรายงานสแปม และกดบล็อกหมายเลขที่ส่งโฆษณาต้องสงสัยหรือ SMS ขยะ ทั้งนี้หากท่านหลงเชื่อถูกหลอกเเล้วให้รีบตั้งสติ เเล้วดำเนินการเเจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อยับยั้งความเสียหายในทันที" โฆษก บช.สอท. กล่าว