อธิบดีกรมการจัดหางาน สั่งเตรียมความพร้อมก่อน พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 จะมีผลบังคับใช้ 1 มิ.ย.64 นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานในฐานะหน่วยงานของรัฐ ให้ความสำคัญกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเห็นถึงความจำเป็นที่ผู้บริหาร และบุคลากรในหน่วยงาน ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อนำมาปฏิบัติให้สอดคล้องกับภารกิจกรมการจัดหางานในการส่งเสริมการมีงานทำ และคุ้มครองคนหางาน ซึ่งประกอบด้วย ด้านจัดหางานในประเทศ ด้านจัดหางานต่างประเทศ ด้านการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว รวมทั้งการตรวจและคุ้มครองคนหางาน ซึ่งภารกิจในแต่ละด้านมีความเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในกระบวนการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลโดยผู้ปฏิบัติงาน และการประมวลผลโดยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล “วันที่ 12 มี.ค.64 กรมการจัดหางาน มีการจัดอบรมพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ผ่านสื่อออนไลน์ แบบสื่อสารสองทาง (VDO Conference) โดยมอบหมายนายสมชาย มรกตศรีวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นประธานเปิดการอบรม และเป็นตัวแทนผู้บริหารในการซักซ้อมเตรียมความพร้อมก่อนพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ร่วมกับผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรทราบแนวทางป้องกันการละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล หรือสร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นของประชาชนเจ้าของข้อมูล ในส่วนของหน่วยงานสามารถยกระดับความเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล มีขอบเขตในการจัดเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ชัดเจน และการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีความโปร่งใส รับผิดชอบต่อสังคม ตรวจสอบได้” นอกจากนี้ทางกรมฯยังมีเป้าหมายให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากทุกจังหวัด เป็นผู้นำร่องปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ครบถ้วน ลดความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสามารถแนะนำ ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือผู้ร่วมงานได้ โดยขณะนี้ได้เริ่มสร้างกระบวนการและแนวทางปฏิบัติที่รัดกุม ชัดเจน เพื่อให้มีองค์ความรู้ และการเตรียมความพร้อมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ในงานบริการประชาชนและป้องกันการกระทำผิด ซึ่งมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา สำหรับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีสาระสำคัญเพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบที่เหมาะสม ส่งเสริมการใช้ข้อมูลในการพัฒนานวัตกรรมอย่างมั่นคงปลอดภัย สร้างความโปร่งใสและเป็นธรรมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และสุดท้ายเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาจากการถูกละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ