“กฤษฎี กลิ่นจงกล” ไร้คู่แข่ง ชิงนายกเล็กตำบลเล็กอัมพวา สมาชิกสภาฯ รุ่นเล็ก ประทะ รุ่นใหญ่

เทศบาลตำบลอัมพวา เป็นเทศบาลที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 ของจังหวัดอันดับ 2 คือ เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ส่วนเทศบาลตำบลอัมพวา มาเป็นที่ 2 เพราะโครงสร้างงานใหญ่ แต่ตัวพื้นที่เล็ก ขั้นตอนการบริหารซ้ำซ้อน หลายขั้นตอนมาก แต่การตัดสินใจยากมากเช่นกัน เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับประเทศ แน่นอนที่สุดผู้ที่จะเข้ามาบริหารงานเทศบาลตำบลอัมพวา เมืองท่องเที่ยว ต้องมีความสามารถพิเศษจริงๆ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้าจะประกาศ มีการเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอัมพวา นายกเดิมที่รักษาการ คือนายสัญชัย อารยอสะนีย์ ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดตีบตัน มีรองนายกรักษาการแทนอยู่ การพัฒนาท้องถิ่น และพื้นที่จึงหยุดชะงัก เมื่อ กกต.ประกาศ ให้มีการเลือกตั้งนายกฯและสมาชิกสภาเทศบาลทุกระดับ ทั่วประเทศ ในวันที่ 28 มีนาคม 2546 เทศบาลตำบลอัมพวา มีผู้สมัครนายกฯ และ ส.ท. 2 ทีม ๆ แรกเป็นทีมน้องใหม่ นำโดยนาย เต้ย หรือนายกฤษฎี กลิ่นจงกล อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอัมพวา เมื่อครั้งที่ผ่านมา สะสมคะแนนสงสาร คะแนนชมเชยที่ทำงานดีมาตลอดเกือบ 10 ปี ทำงานโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ส่งเสริมการศึกษาทุกระดับ ส่งเสริมการออกกำลังกายในการเล่นกีฬาทุกประเภท เพื่อต่อต้านยาเสพติด และเพื่อสุขภาพ ชาวอัมพวาดีขึ้น จนมีคุณภาพชีวิต และมีศักยภาพในการทำงาน บริหารบ้านเมือง เต้ยจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัย ชื่อดังแห่งหนึ่ง เรียนจบ ทำงานจิตอาสา จึงลงสมัคร สท.อัมพวา และได้เข้ามาบริหารเทศบาลตำบลอัมพวา ด้วยเป็นคนรุ่นใหม่ และนายกฯในขณะนั้น ป่วย เต้ย หรือนายกฤษฎี กลิ่นจงกล ทำหน้าที่แทนนายกสัญชัย ในเรื่องการบริหารงานการศึกษา และการส่งเสริมการเล่นกีฬา และพัฒนาการท่องเที่ยว จึงเข้าทาง เต้ย ในการพัฒนาการศึกษาและกีฬาและงานพัฒนาการท่องเที่ยวอัมพวา ในภาคสังคม เต้ย หรือนายกฤษฎี กลิ่นจงกล ช่วยเหลือสังคมมาตลอด ในฐานะ สท. และผู้นำชุมชน รวบรวมจิตอาสา ในอัมพวา มาช่วยกันพัฒนาตำบลอัมพวา ในด้านการเก็บขยะการจัดระบบ ระเบียบในตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา งานที่ เต้ย หรือ กฤษฎี กลิ่นจงกล ปฏิบัติหน้าที่ เหมือนการปิดทองหลังพระ พระไม่เห็นแต่คนเห็น และจะพิสูจน์ ความดี ความขยันของเต้ย ว่าชนะใจคนอัมพวาหรือไม่ ผู้สมัครทีมที่ 2 ไม่มีหัวหน้าทีมที่เป็นทางการ แต่มีทีมที่ปรึกษา และสมาชิกสภาลงสมัครรับเลือกตั้ง ครบทุกเขต จำนวน 12 คน การไม่มีหัวหน้าทีมหมายถึง ปล่อยเก้าอี้ ผู้ลงสมัครนายก 1 เดียว คือทีมที่ 1 หมายถึง นายกฤษฎี กลิ่นจงกล หรือ เต้ย ได้เป็นนายกแน่นอน แต่ลูกทีมที่ลงสมัคร 12 คน ต้องมีคนหล่น คนได้ วัดฝีมือกันไป ถ้าชนะไม่ขาด หรือไม่ยกทีม เทศบาลตำบลอัมพวา ก็จะสมาชิกสภาแบบลูกผสม แต่ถ้าชนะขาดก็จะเป็นทีมงานเดียวกัน การบริหารงานก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีฝ่ายค้านในสภา นอกจากจะมีศิลปินเดี่ยวที่สมัครอิสระ หวังตำแหน่ง สมาชิกสภาอย่างเดียว ส่วนจะเข้ามาร่วมทีมหรือไม่ ก็ต้องเป็นเรื่องของในอณาคต ท่ามกลางคำว่า นักการเมืองไม่มีมิตรแท้และศรัตตรูที่ถาวร หลายคนคิดว่า หัวหน้าทีมที่ 2 ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องลงสมัครนายกด้วย เพราะเป็นอดีตนายก 2 สมัย และพัฒนาตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา จนติดตลาดท่องเที่ยวโลก และเป็นผู้บุกเบิก ฟื้นฟู ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา จากตลาดน้ำบนบก เป็นตลาดน้ำยามเย็นอัมพวาพัฒนาจนติดตลาดท่องเที่ยวทั้งประเทศไทย มีชื่อเสียง ไปทั่วโลกของการท่องเที่ยว คุณชาย หรือร้อยโท พัชโรดม อุนสุวรรณ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา 2 สมัย จบการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เดิมรับราชการเป็นทหาร แต่ลาออกไป เรียนต่างประเทศ อย่างที่กล่าวไว้จบการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จึงมีประสบการณ์ ในด้านเชิงวิชาการท่องเที่ยว และในด้านปฏิบัติ ก็ทำได้ดี จนไม่มีใครกล้าลงสมัครเข้าแข่งขัน ในการลงรับเลือกตั้งครั้งที่ 2 แต่มามีปัญหาครั้งที่ 3 สอบตก แพ้ไม่ถึง 500 คะแนน คุณชาย พัชโรดม แพ้ให้นายสัญชัย อารยอสนีย์ เพราะถูกชาวบ้าน เพ็งเล็ง และถูกกล่าวหาว่า นำนักธุรกิจ ชื่อดังทางด้าน ค้าขายน้ำมันและเพชรพลอยจากต่างประเทศ มาสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ในพื้นที่อัมพวา แย่งทำธุรกิจท่องเที่ยว เกี่ยวกับเจ้าของพื้นที่ๆ ทำรีสอร์ท และบ้านพัก แบบโฮมสะเตย์ โรงแรมขนาดกลาง และขนาดเล็ก การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอัมพวาในครั้งนี้เหมือนการพบกันระหว่างทีม เยาวชน กับทีม หัวหน้าชุมชน ที่อายุมาก ทีมนี้ไม่มีผู้สมัครนายก แต่มีผู้สมัครสมาชิกสภาและทีมที่ปรึกษา ใช้หัวเรือคนเดียวกัน คือดุษฎี หรือเต้ย เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง ลงสมัครนายกฯ ก็ต้องทำคะแนนเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หากไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ตาม พรบ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่น ก็มีสิทธิ์ต้องลงสมัครนายกใหม่อีกครั้ง หรือมีคนมาเสียบแทน จึงประมาทไม่ได้ ต้องเจองานหนักพอสมควรสำหรับ นักการเมืองสายพันธุ์ใหม่ อย่าง นายกฤษฎี กลิ่นจงกล +++++++++++