ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ เมื่อเวลา​ 20.30​ น.ของ วันที่​ 10​ มี.ค.64​ ที่ผ่านมา​ ร.ต.อ.ธีรยุทธ์​ อังวะ​ รองสารวัตรเวรสอบสวน​ สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง​ จ.กาญจนบุรี​ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านท่าทุ่ม​ หมู่​ 11​ ต.วังด้ง​ฯ​ ว่าเกิดเหตุมีการยิงกันที่บ้านเลขที่​ 8​ หมู่​ 11​ บ้าทุ่ม​ มีผู้เสียชีวิต​ 2​ รายเป็นผู้หญิง​ 1​ ราย ผู้ชาย​ 1​ ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้​ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง​ จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ​ พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัญชา​ ศรีรุจิเมธากรณ์​ ผกก.สภ.ลาดหญ้า​ และ​ พ.ต.ท.สำเริง​ ศิลปะสำราญ​ รอง​ ผกก.สอบสวนฯ​ และตำรวจชุดสืบสวนฯ และแพทย์เวร​ รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ​ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์​ จากการตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่า​ ที่บริเวณเปลญวนใต้ต้นมะขามหน้าบ้านมีร่างผู้เสียชีวิต​ 2​ ราย​ เป็นผู้ชาย​ 1​ ราย​ ผู้หญิง​ 1​ รายนอนหงาจมกองเลือดอยู่ จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า​ ฝ่ายชายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38​ ซุปเปอร์​ เข้าที่ขมับด้านขวา​ 1​ นัด​ คมกระสุนทะลุออกบริเวณขมับด้านซ้าย​ ที่ข้างศพผู้ตายพบอาวุธปืนสั้นออโตเมติก​ ขนาด​.38​ ซุปเปอร์ตกอยู่​ 1​ กระบอก​ โดยอาวุธปืนอยู่ในสภาพขึ้นไกปืนค้างไว้​ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตอีก​ 1​ รายเป็นผู้หญิงมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณกะโหลกศีรษะด้านหลัง​ 1​ นัด​ คมกระสุนทะลุออกบริเวณแก้มขวา​ จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี​ ให้เดินทางมาตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำ​ นางสาวแอนนา​ ประคำทอง​ อายุ​ 26​ ปี​ ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า​ ผู้ตายฝ่ายหญิงมีศักดิ์เป็นแม่ อายุ​ 44​ ปี​ ส่วนฝ่ายชายเป็นอดีตพ่อเลี้ยง​ อายุ​ 36​ ปี​ อยู่บ้านเลขที่​ 4​ หมู่​ 11​ ต.วังด้ง​ อ.เมือง​ จ.กาญจนบุรี​ ซึ่งเป็นอดีตสามีของนางสุภนุช​ เป็นอดีตสามีภรรยาที่อยู่กินกันมานานหลายปี​ แต่มาช่วงหลังๆมักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เป็นประจำ​ จนต้องแยกกันอยู่คนละบ้านได้ประมาณปีเศษ ก่อนเกิดเหตุพ่อเลี้ยง ผู้ตายได้ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิคสีเขียว​ หมายเลขทะเบียน​ จต.-2245 กรุงเทพมหานครฯ​ มาหาแม่ที่บ้านเพื่อมาปรับความเข้าใจและขอคืนดี​ โดยคนทั้งสอง ได้เดินไปนั่งคุยกันที่ตรงเปลญวนใต้ต้นมะขาม​ อยู่ห่างจากตัวบ้านไปประมาณ​ 5​ เมตร สักครู่ก็ได้ยินเสียงคนทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกันกันอย่างรุนแรง​ ตนจึงเดินออกมาดู​ ก็ได้ยินเสียงแม่ร้องด่าอดีตพ่อเลี้ยงว่า​ ถ้าแน่จริงก็มารื้อบ้านที่ปลูกอยู่ด้วยกันให้ออกไปจากที่ดินของแม่ อดีตพ่อเลี้ยงเมื่อได้ยินดังนั้น​ จึงร้องด่าและจับตัวแม่กดศีรษะให้ก้มลง​ พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะทางด้านหลัง​และพูดจาข่ม​ขู่​ ได้ยินเสียงแม่ร้องด่าท้าทายว่า​ เออถ้ามึงแน่จริง​ ยิงเลย​ พอแม่พูดจบ​ อดีตพ่อเลี้ยงก็ใช้ปืนจ่อยิงแม่ทันที​ 1​ นัด​ จนร่างของแม่ฟุบลงกับพื้นจมกองเลือด จากนั้น อดีตพ่อเลี้ยงก็ได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงที่ขมับตัวเองจนเสียชีวิตตายตามไปอีกคน จากการตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋งของอดีตพ่อเลี้ยง พบว่าตรงที่นั่งคนขับมีซองปืนพกสั้นวางอยู่​ 1​ ซอง​ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน​ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า​ อดีตพ่อเลี้ยงคงวางแผนเตรียมการมาเพื่อง้อขอคืนดีกับอดีตภรรยา​ แต่ถูกอดีตภรรยาปฎิเสธ​แบบไม่มีเยื้อใย​จึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง โดยชักอาวุธปืนออกมาขู่ให้กลัว​ เพื่อบังคับให้คืนดีด้วย​ แต่เจออดีตภรรยาพูดจาท้าทายจึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงอดีตภรรยา​จนเสียชีวิต​ แล้วเกิดคิดได้กับการกระทำที่ทำลงไป​ จึงตัดสินใจใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองตายตามไปอีกคนเพื่อหนีความผิด ส่วนศพของคนทั้ง​ 2​ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบให้มูลนิธิฯ​ นำศพส่งสถาบันนิติเวช​ รพ.ตำรวจ​ เพื่อผ่าพิสูจน์ตามระเบียบ​ ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไป