"ศุภชัย รองปธ.สภาฯ" ปลื้ม งานกิจกรรมกัญชา แห่งแรก จ. นครพนม คนแห่ร่วมงานล้นหลาม ขณะที่ มีผู้คนสนใจร่วม MOU ซื้อกัญชาอย่างคับคั่ง เมื่อวันพุธที่ 10 มีนาคม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2  และ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง "กิจกรรมเตรียมความพร้อมการเปิดตลาดกัญชาชุมชนจังหวัดนครพนม" แห่งแรก ของเขตสุขภาพที่ 8 ศรีสงคราม มหานครแห่งกัญชา ซึ่งจัดขึ้นที่  หนองแคนช้าง ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ที่จัดขึ้นในวันนี้ โดยนายศุภชัย กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ที่มาให้องค์ความรู้ ในด้านกัญชา และการปลูกกัญชา อาทิ นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม, นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 และถือว่ากิจกรรมในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง โดยมีเจ้าของธุรกิจร้านค้า ภัตตาคาร ทั้งที่มาจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หรือภายในจังหวัดนครพนมเอง โดยคาดไม่ถึงว่าจะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ อีกทั้งได้ทำ MOU รับซื้อใบกัญชาเป็นจำนวนมาก  ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญ คือ พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ได้เข้าใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เข้าใจในทิศทางว่าจะต้องเดินไปในแนวทางอย่างไร อีกทั้งประชาชนที่มาร่วมงานก็เข้าใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มากขึ้น นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ในงานนี้ ได้รับเกียรติจาก นพ.กิตติ โล่สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาบรรยายเพิ่มเติมอีกด้วย และเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีประชาชน ให้ความสนใจทำ MOU ซึ่งจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เกิดเศรษฐกิจใหม่ ในฐานราก ให้กับพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า " ตนเอง,  สสจ., สสอ. และผู้ตรวจฯ ได้ตกลงกันแล้วว่า ในเร็วๆนี้ จะเชิญ ผอ.รพ.สต. มาประชุมจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจ โดยจะมีการเชิญผู้อำนวยการสถาบันกัญชา ผู้ตรวจฯ และวิทยากร มาร่วมประชุมเพื่อที่จะได้ให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันก่อน และร่วมจดทะเบียน " " โดยตนเอง ได้มีการประสานงานไปยังภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วว่า หนึ่งรพ.สต. จะต้องมีโรงเรือน 1 โรงเรือนในการปลูกกัญชา ทางการแพทย์ อย่างน้อย ทุกรพ.สต. จะต้องมีวิสาหกิจชุมชนมาทำ MOU ไม่น้อยกว่า 1 วิสาหกิจ โดยจะมีการนำเกษตรจังหวัด มหาวิทยาลัยนครพนม จะมาดูแลในภาควิชาการ ดูแลเรื่องดิน เรื่องการปลูก การสร้างโรงเรือน ซึ่งก็จะมาช่วยเสริมกัน เรื่องการกำจัดศัตรูพืช เพลี้ย หรือแมลงต่างๆ ที่ชอบมากินพืชเหล่านี้ เพราะเราไม่ใช้สารเคมี ก็จะมีนักวิชาการเข้ามาช่วยแนะนำประกอบกับมีภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดำเนินการจัดการอย่างดี " นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย