วันที่ 10 มี.ค.พ.ศ.64 ที่ จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เลขาธิการ กอ.รมน., พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่3/ผอ.ศอ.ปส.ชน., และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผบก.ขส., พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส., พล.ต.ต.หญิง วนิดา หาญบุญเศรษฐ ผบก.ประจำ บช.ปส., พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 บช.ปส.,พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สปป.ป.ป.ส., นายไพศาล กันทะเตียน ผอ.ตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด, นายณรงค์ วรหาญ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 3, พ.ต.นิฐิติพันธ์ แก้วใสสนิท หน.ฝ่ายนโยบายและแผน กอ.รมน.จว.บุรีรัมย์ , พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองเลขาธิการ ฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง นายธัชกร หัตถาธยากูล ผวจ.บุรีรัมย์, นายวิรัตน์ กลิ่นขจร นายอำเภอหนองกี่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ปริญญา พรเดชาพิพัฒ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผกก.สภ.หนองกี่ พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผบช.ตชด., พล.ต.ต.สุภัทร น่วมสมัย ผบก.ตชด.ภ.2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาตามแผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามแผน สยบไพรี 64/6 “DID ATTACK”
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่าตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการป้องกันและปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดและชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดและพื้นที่ล่อแหลม ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ตามแผนยุทธการสยบไพรี 64/6 “DID ATTACK” สามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับจำนวน 5 ราย นายพนม ไชยันโต ที่อยู่ 350 ม.15 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี หมายจับที่ 179/64 ลง 8 มี.ค.64 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ซึ่งคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุ ที่ได้มีการสมคบกัน”,นายเชิดชาย สมรฤทธิ์ ที่อยู่ 125 ม.7 ต.ทุ่งกระตาด อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หมายจับที่ 178/2564 ลง 8 มี.ค.2564 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ซึ่งคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุ ที่ได้มีการสมคบกัน” ,นางสาวปวริศา ค้ำชู ที่อยู่ 11/1 ม.4 ต.ท่าโพธิ์ชัย อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หมายจับที่ 182/2564 ลง 8 มี.ค.64 ข้อหา “ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน,สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” ,นางชัยรัตน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่อยู่ 25 ม.15 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หมายจับที่ 183/2564 ลง 8 มี.ค.64
ข้อหา “ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน,สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” และนายมะนะศักดิ์ แลเซอะ ที่อยู่ 399/117 ม.4 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จว.นครสวรรค์ หมายจับที่ 181/2564 ลง 8 มี.ค.2564 ข้อหา “ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน,สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” และตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ พ.ศ.2534 โดยยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 5 หลังมูลค่าประมาณ 13,100,000 บาท, อาคารพานิชย์ 7 คูหา มูลค่าประมาณ 19,500,000 บาท ,ที่ดินเปล่า 1 แปลง มูลค่าประมาณ 1,600,000 บาท ,ห้องชุดคอนโด 1 ห้องมูลค่าประมาณ 1,500,000 บาท ,รถยนต์ จำนวน 11 คันมูลค่าประมาณ 11,738,900 บาท,รถจักรยานยนต์ 7 คัน มูลค่าประมาณ 2,568,000 บาท ,อุปกรณ์ออกกำลังกายมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท ,อาวุธปืน 1 กระบอกมูลค่าประมาณ 60,000 บาท, อุปกรณ์เครื่องปริ้นท์ 4 เครื่องมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท, โทรศัพท์ 1 เครื่องมูลค่าประมาณ 3,000 บาท , เครื่องคอมพิวเตอร์ 4 เครื่องมูลค่าประมาณ 100,000 บาท,อุปกรณ์เครื่องเสียง 1 ชุด มูลค่าประมาณ 100,000 บาท,โทรทัศน์ 7 เครื่องมูลค่าประมาณ 50,000 บาท ,กล้องถ่ายรูป แคนนอน จำนวน 1 ตัว มูลค่าประมาณ 45,000 บาท ,พารามอเตอร์ 1 เครื่องมูลค่าประมาณ 30,000 บาท ,เครื่องปั้มลม 50 ลิตร จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 4,000 บาท ,เครื่องปรับอากาศ จำนวน 7 เครื่อง มูลค่าประมาณ 100,000 บาท ,ชุดสนุกเกอร์จำนวน 1 ชุด มูลค่าประมาณ 35,000 บาท ,บัญชีเงินฝาก 11 เล่ม,ทะเบียนบ้านจำนวน 2 เล่ม,บัตรกดเงินสด จำนวน 2 ใบ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 51 ล้านบาท