หนุ่มนักเรียนวัย 18 ปี หึงโหดแฟนสาววัย 19 ปี หลังคิดว่าแฟนสาวเริ่มตีตัวออกห่าง นัดคุยแต่ทะเลาะอย่างรุนแรงจนลงมือบีบคอตายแล้วลากศพขึ้นรถกระบะนำร่างเผาอำพรางคดีในป่าลึก สุดท้ายสำนึกผิดให้ญาติพามอบตัวต่อตำรวจ
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.หญิงวิรัลพัชร วรพงศ์ปกรณ์ สารวัตร สภ.แก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ถูกเผานั่งยางกลางป่าสวนยางพื้นที่หมู่ 11 บ้านม่วงหอม ต.บ้านกลาง อ.วังทอง หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราในป่าลึก พบร่างผู้เสียชีวิตสภาพถูกเผานั่งยางจำนวน 3 เส้นเหลือเพียง กองกระดูก สภาพไหม้เกรียมจนจำเค้าเดิมไม่ได้ จากการตรวจสอบทราบชื่อต่อมา ผู้เสียชีวิต คือ น.ส จุฬารัตน์ กองแก้ว อายุ 19 ปี อยู่ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งญาติได้แจ้งความหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณบ่ายโมง กระทั่งญาติได้ออกตามค้นหาแต่ก็ไม่พบ จนมาทราบว่าถูก ฆาตกรรมเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต มีชื่อเล่นว่า นายแม้ว อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวังทอง หลังก่อเหตุจึงได้มอบเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ให้ญาติพามามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ ขณะที่ญาติๆและเพื่อนของผู้เสียชีวิตทราบข่าวได้เดินทางมาติดตามคดีที่สถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา
นางสวี กุนนะ แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายแม้ว ผู้ต้องหา ได้มารับลูกสาวบอกว่าจะพาไปหาหมอ จนกระทั้ง 2 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่กลับ จึงได้ตามไปสอบถามนายแม้ว ก็บอกว่าได้มาส่งที่ท่ารถแล้ว จากนั้นจึงได้ออกติดตามหาแต่ก็ไม่พบ ตนกระวนกระวายใจตลอดมา จนกระทั้งมารู้ว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก ในวันนี้จึงได้นิมนต์พระมาสวดและอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน ส่วนเรื่องคดีก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนแฟนหนุ่มใจโหดก็อยากให้มาขอขมาศพด้วย
เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตและแฟนหนุ่มมีเรื่องทะเลาะกัน น่ามาจากความหึงหวงคิดว่าแฟนสาวตีตัวออกห่างเพราะแฟนสาวจะเข้ามาทำงานในห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง กระทั่งลงไม้ลงมือบีบคอจนถึงแก่ความตาย จากนั้นแฟนหนุ่มได้นำศพขึ้นรถกระบะและพามาเผาอำพรางคดี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และอำพรางซ่อนเร้นศพ
ด้านผู้เป็นตาของนายแม้ว ผู้ต้องหา บอกว่า พอทราบเรื่องว่าหลานชายฆ่าแฟนสาวตาย ญาติ ๆ กับครอบครัวก็รู้สึกตกใจมาก เพราะปกตินายแม้วไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน เพียงแต่ชอบเล่นตีไก่เท่านั้นและทั้งคู่ก็หมั้นหมายเป็นคู่ครองกันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด 19 ด้วยเงิน 1 แสนบาท และ ทอง 1 บาท แต่ระยะหลังครอบครัวฝ่ายหญิงอยากให้เลิกกัน เพราะครอบครัวหลานชายมีฐานะยากจน
ตนเคยเตือนว่าอย่าเพิ่งหมั้นกันเลย ขอให้เรียนให้จบก่อนแล้วจะได้บวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่างเหมือนไปมีคนอื่น หลานชายอาจเกิดความหึงหวงและทะเลาะกันจนลงไม้ลงมือบีบคอแฟนสาวจนถึงแก่ความตายในที่สุด ตอนนี้ครอบครัวก็ทุกข์ใจอยากจะประกันตัวนายแม้ว หลานชาย แต่ไม่รู้ว่าจะใช้หลักทรัพย์มากน้อยเพียงใด หรือ ตำรวจจะยอมให้ประกันตัวหรือไม่.

