ฉาวอีก ครูคณิตศาสตร์ โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกศิษย์ ม.1 ในห้องน้ำโรงเรียน คลิปแชร์ว่อนโซเชียล พ่อทำงานต่างจังหวัดทราบข่าวแทบช็อก รีบบึ่งรถกลับบ้านนำหลักฐานทั้งคลิปข้อความแชทโร่แจ้ง ตร.เอาผิดครูหื่น ฉะครูเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง แต่กลับไร้จรรยาบรรณ จี้ต้นสังกัดลงโทษทั้งวินัยและกฎหมายถึงที่สุด
(8 มี.ค.64) นายเอ (นามสมมติ) ผู้ปกครอง ชาวอำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานคลิปวีดิโอที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ และข้อความแชทสนทนาที่ไม่เหมาะสม ระหว่างครูประจำชั้นกับลูกสาวของตัวเอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผู้กำกับการ สภ.กระสัง ให้เอาผิดกับนายโอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นครูประจำชั้น และครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอกระสัง ที่หลอกล่อกระทำชำเรา ด.ญ.บี (นามสมมติ) ลูกสาวของตัวเอง ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 ทั้งที่เป็นลูกศิษย์ของตัวเอง ทั้งยังมีการแอบถ่ายคลิปขณะครูมีสัมพันธ์กับลูกสาวในห้องน้ำของโรงเรียน ซึ่งคาดว่าครูน่าจะเป็นคนถ่ายเอง ถูกนำไปแชร์ในโลกโซเชียลอีกด้วย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับลูกสาวของตัวเอง
อีกทั้ง ยังมีการส่งข้อความหาลูกสาวในลักษณะห้ามเอาเรื่องไปบอกใคร แต่ถ้าผู้ปกครองรู้ก็อย่าแจ้งความเดี๋ยวจะเคลียร์เองว่า “ถ้ายายรู้เรื่องให้โทรหา ถ้าไม่กล้าโทรให้บอกว่าเดี๋ยวรับผิดชอบเองอย่าแจ้งตำรวจ เพราะถ้าแจ้งตำรวจจะรับผิดชอบไม่ได้”
นายเอ พ่อของ ด.ญ.บี ผู้เสียหาย บอกว่า ตนเองทำงานอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ส่วนลูกสาวอยู่กับตายายที่ อ.กระสัง เมื่อคืนพี่สาวโทรศัพท์ไปบอกว่า มีคลิปครูประจำชั้นมีอะไรกับลูกสาวถูกนำไปแชร์ในโซเชียล ตนก็ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก เช้ามืดก็รีบลางานขับรถมาที่บ้านทันที พอได้เห็นคลิปก็พยายามถามลูกสาวแต่ลูกสาวยังไม่พูดอะไร ตนจึงเอาโทรศัพท์จากลูกสาวมาไล่เช็กดู ก็พบข้อความที่ครูคนดังกล่าว แชทหาลูกสาวในลักษณะที่ไม่เหมาะสม จึงตัดสินใจนำคลิปวีดีโอ และข้อความแชทเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง เพื่อให้เอาผิดกับครูประจำชั้นที่กระทำชำเราลูกสาว
ซึ่งหัวอกคนเป็นพ่อรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากถามว่าทำไมครูถึงทำกับลูกสาวของตนเองแบบนี้ ยังมีจรรยาบรรณความเป็นครูอยู่ไหม ซึ่งตนคิดว่าโรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดและครูเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองของนักเรียน แต่กลับมากระทำกับลูกศิษย์แบบนี้ ยืนยันว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเอาผิดกับครูคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้ปกครองไว้ พร้อมทั้งจะได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย และส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อประกอบสำนวนคดี จากนั้นก็จะได้เรียกครูที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป