"ติ๋ม ทีวีพูล "ลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องพิจารณาคดี กล่าวกับนักข่าวที่มารอสั้นๆ ว่า...“เราก็หวังจะชนะ เหมือนกัน สู้กับหน่วยงานของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ยาก เราอยากได้รับการเยียวยาเหมือนๆ คนอื่นที่ได้”
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 มี.ค.64 ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ หลังจากฟังคำพิพากษา ศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ผู้ฟ้องคดี) โดย นางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ไทยทีวี จำกัด หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล กับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่สองฝ่ายอุทธรณ์ แล้ว
นางพันธุ์ทิพา หรือ ติ๋ม ทีวีพูล เปิดเผยว่า คดีนี้สิ้นสุดแล้ว ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินให้ กสทช.ผิดสัญญาจริง และให้คืนแบงค์การันตี (หนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด มหาชน) ให้เราทั้งหมดตั้งแต่งวดที่สองถึงงวดที่หกเป็นเงิน 1,750 ล้านบาท และให้คืนค่าธรรมเนียมงวดแรกไปเกินอีก 151,700,000 บาท ส่วนงวดที่สองที่ธนาคารกรุงเทพไปจ่ายแทนเราอีก 384 ล้านบาทก็ให้ กสทช.คืนเงินให้กับธนาคารกรุงเทพ ทั้งหมดต้องทำให้เสร็จภายใน 60 วัน ส่วนค่าเสียหายศาลปกครองสูงสุดไม่ได้ให้กับเรา
ตนยอมรับทุกสภาพที่ศาลตัดสินคดี อย่างน้อยเราก็ได้สู้จนถึงที่สุดแล้ว อะไรที่ควรจะทำเราก็ได้ทำหมดแล้ว ซึ่งจะเป็ยบรรทัดฐานสำหรับกรณีที่เอกชนไปทำสัญญากับรัฐ ว่าเราก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องและยุติสัญญาได้ และสามารถที่จะเรียกร้อยค่าเสียหายส่วนจะได้หรือไม่ได้ เหมือนคดีนี้เราไม่ได้ค่าเสียหาย แต่ก็สามารถได้
LG (เงินค้ำประกันธนาคาร)คืนหมด ตนพอใจ สำหรับการรอคอยมาเป็นระยะเวลายาวนานมาก ใช้เวลาต่อสู้คดีมาทั้งหมด 5 ปี 10 เดือน ตนคิดว่าเราชนะคดี เพราะศาลชีชัดว่า กสทช.ทำผิดสัญญสหลายข้อมาก เช่นการแจกคูปองช้าไป 6 เดือน การประชาสัมพันธ์กล่องฯ ที่ ประชาชนไม่ได้รับความรู้ในเรื่องนี้ รวมทั้งช่อง11 ไม่สามารถตั้งเครือข่ายให้ก็ทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในการทำงานของ กสทช ทำให้ลูกค้าไม่มาลงโฆษณาได้ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ก็ไม่ทั่วถึง ตนต้องขอขอบคุณศาล และเพื่อนๆ ในวงการทุกคนที่ให้กำลังใจตลอดมา รวมทั้งลูกน้องทุกคนที่รอคอยกันมายาวนานทุกอย่างเราจะเดินต่อไป คดีทุกอย่างกับ กสทช ก็ยุติลงแล้ว รอคืน LG ถ้าคืนไม่ได้ก็ต้องคืนเป็นเงินสด 1,750 ล้านบาทกับเรา
ตอนนี้เราจะเดินหน้ายุค 4 G แล้วก็ 5 G บุกต่อในเรื่องโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม และดูพาร์ทเน่อร์จากต่างประเทศด้วยที่จะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ ให้เกิดในเมืองไทยต่อไป ในชื่อ ทีวีพูล คนติดตามอยู่ 7.8 ล้าน และอื่นๆ เช่น ข่าวชาวบ้าน สไปซี่ แก้เซ็ง คนติดตามเพจอยู่ 1.5 ล้านแล้วเวลานี้ เมื่อก่อนคนเรา 400 กว่าคน เดี๋ยวนี้เหลือแค่สิบกว่าคนทำงานกันบริษัท ที่ยืนหยัดมาได้ในวันนี้ เราจะเอาเงินมาพัฒนาบุคคลกร แต่จะไม่กลับไปทำทีวีแบบเต็มร้อย แต่อาจจะมีบ้างเนื่องจากคนรุ่นเก่ายังมีดูทีวีกันอยู่ เราคงเข้าไปจับจองพื้นที่ในทีวีบ้าง เราไม่มีปัญหากับ กสทช.จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแล้ว 5 ปีที่หายหน้าไป ตนก็ไปให้ความสนใจในเรื่องของกัญชา และ กัญชง ใบกระท่อม ตนจะไปทำเป็นสาธารณกุศลในเรื่องเหล่านี้