เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 มี.ค.64 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้เสียหายจำนวน 8 ราย ใน 13 รายเดินทางเข้าพบ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือติดตามคดีหลังถูกส.อ.หญิง สุพัชราภา(สงวนนามสกุล)​หรือชื่อเล่นว่า หม่อม ปัจจุบันถูกปลดออกจากราชการฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงเมื่อเดือนก.ค. 63 ที่ผ่านมา โดยส.อ.หญิง สุพัชราภาได้แอบอ้างว่าหัวหน้าที่ดิวงานให้คือระดับบิ๊กในรัฐบาล แอบอ้างว่ารู้จักนายทหารชั้นผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งสามารถฝากเข้าทำงานรับราชการทหารได้​ โดยหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินให้รวมทั้งหมด13 รายเป็นเงิน 3.5 ล้านบาทโดยผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้แล้วหลายท้องที่ นายกรกช สงวนนามสกุล อายุ 28 ปีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้เสียหาย​ กล่าวว่า เบื้องต้นรู้จักผ่านทางเพื่อนที่เป็นข้าราชการทหาร เค้าเป็นพนักงานที่ส่งเอกสารเกี่ยวกับหน่วยกองทัพ ซึ่งบอกว่าสามารถพาเข้ารับราชการทหารได้ ตนจึงสนใจ สาเหตุที่ตนหลงเชื่อเพราะเขาส่งบัตรทหาร เเละมีการอ้างถึงหัวหน้าหน่วย เเละมีการอ้างถึงบิ๊กคนดังในรัฐบาล จึงค่อนข้างน่าเชื่อถือ ตนจึงดำเนินการตามที่เขาเเนะนำมา ส่วนเรื่องเงินเขาเเจ้งมาว่าในการดำเนินการไม่เกิน 250,000บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท) เเต่ไม่ได้จ่ายทีเดียว จะจ่ายตามขั้นตอนการดำเนินการ เเละโอนตามจำนวนที่เเจ้ง ซึ่งชุดเเรกที่โอนไปเขาบอกว่าจะโอนคืนให้ในวันรายงานตัว ตนเสียหายไปทั้งหมดรวม 460,000 บาท ระยะเวลาตั้งเเต่มกราคมปี 63 ถึงเดือนธันวาคมปี 63 ซึ่งตนตรวจสอบเเล้วว่าเป็นทหารจริง เเต่โดนสั่งออกจากราชการตนพึ่งมารู้ในเดือนธันวาคม จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้นทั้งทางเฟสบุ๊คเเละไลน์เขายังใช้ข้อมูลที่เป็นทหารอยู่ ยังติดต่อได้เเต่พยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการโอนเงิน อยากให้ทางทนายรณณรงค์ช่วยเหลือ นายอชิต สงวนนามสกุล อายุ 29 ปีทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ทางส.อ.หญิงให้ตนเเบ่งจ่ายเงินเป็น 2 งวดโดยงวดแรกจำนวน 300,000 บาทเพื่อเอาไปให้ก่อน งวดที่สองจะให้ต่อเมื่อส่งเอกสารรายงานตัวแล้ว โดยงวดที่ 2 ตนโอนเมื่อเดือนตุลาคม ประมาณ 250,000 บาท รวมเป็น 550,000 บาทเบื้องต้นตนหาที่สอบนายร้อยอยู่แล้วตนได้รู้จักผ่านเพื่อน เเละเพื่อนไปส่งเอกสารพอดีตนจึงตามไปดูว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งไปเจอเป็นส.อ.หญิงเเละสอบถามตนเกี่ยวกับสาขาที่จบมา เเละให้ส่งประวัติให้ดูว่าเป็นยังไง จะให้หัวหน้าดูให้เเละเค้าย้ำว่าเป็นลูกน้องบิ๊ิ๊กนายทหาร โดยนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง นายเอ นามสมมุติ รับราชการ กล่าวว่า ตนเสียหายไปทั้งหมด 350,000 บาท โดยรู้จักผ่านทางรุ่นพี่ว่าคนนี้เป็นคนฝากรับราชการทหารได้ ตนเเบ่งจ่ายเป็น 3 งวด งวดเเรกเเละงวดที่สอง รอบละ 150,000 เเละงวดสุดท้ายประมาณ 50,000 อ้างว่าเป็นค่าเอกสาร เเละสอ.หญิงเคยนัดทานกาเเฟกันที่กองทัพบก เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นส.อ.หญิงเขาโดนปลดจากราชการเเล้ว เเต่ยังคงไปที่กองทัพบกอยู่ เเละอ้างถึงบิ๊กทหารคนดังท่านหนึ่งว่าตนเป็นคนนั่งอยู่หน้าห้องเเละชงกาเเฟให้บิ๊กทหารคนดังรายนี้สามารถฝากเข้ารับราชการทหารได้ตนจึงหลงเชื่อ ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่าวันนี้ผู้เสียหายจากพิษณุโลก เเละอีกหลายพื้นที่ถูกแอบอ้างชื่่อทำรองนี้ โดยหลอกว่าสามารถที่จะฝากให้ลูกหลานเข้าทำงานที่กองทัพทหารได้ทำให้สูญเงินไปกว่าหลายเเสนบาท ซึ่งคดีไม่มีความคืบหน้าจึงเดินทางมาพบตนให้ติดตามคดีรวบรวมข้อมูลเเล้วส่งให้กองทัพบกอีกที เพราะมีการอ้างชื่อข้าราชการขั้ั้นผู้ใหญ่​ ส่วนส.อ.หญิงรายนี้ถูกให้ออกจากราชการเพราะมีความผิโ​ กระทำชั่วอย่างร้ายเเรงตั้งเเต่ปี 63 มีความผิดฐานฉ้อโกงเเละมีบางคนที่คุยผ่านออนไลน์ทำให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ส่วนจะมีข้อหาอื่นเพิ่มเติมจะขอตรวจสอบอีกที