วันที่ 7มี.ค.64 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง อย่าปล่อยให้การเขียน “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการสืบทอดอำนาจที่สมคบคิดกันโดยพรรคพลังประชารัฐ พวก ส.ว. และองค์กรอิสระ ระบุว่า วานนี้ดิฉันได้ร่วมวงถกแถลง “ก้าวต่อไปของการจัดทำรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” ได้รับฟังความเห็นอย่างหลากหลายจากหลายแวดวง ดิฉันถือโอกาสนี้ชี้ชวนให้เห็นอันตรายในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่รอเราอยู่ข้างหน้า ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ถูกขนานนามว่าเป็น “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ได้ยากยิ่งขึ้น
ขอเรียนว่า เป้าหมายของทุกภาคส่วนคือการใช้ รธน. ฉบับใหม่นี้ เป็นทางออกให้กับวิกฤตการเมืองของประเทศที่เรากำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่ทุกขั้นตอนต้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ไม่เช่นนั้น รธน. ที่เราได้มา จะเป็นชนวนก่อความขัดแย้งต่อไปข้างหน้า การมี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จำนวน 200 คน เพื่อจัดทำ รธน. ฉบับใหม่ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ทว่าขณะนี้ กลไกที่จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนมากที่สุด มีแนวโน้มถูกทำลาย และแทนที่ด้วยการเขียน รธน. เพื่อการสืบทอดอำนาจ กลุ่มสร้างไทย ได้เสนอไว้ว่า การที่รัฐสภาดึงศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการร่าง รธน.ฉบับใหม่ เรื่องแปลกประหลาดและส่อให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการสมคบคิดเพื่อทำให้การจัดทำ รธน. ฉบับใหม่โดย สสร. เป็นไปไม่ได้
“ต้องระวังว่า ท้ายที่สุด การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะไม่ให้มี สสร. แต่ให้อำนาจรัฐสภาในการแก้ รธน. แปลว่า เสียงข้างมากในรัฐสภาคือ พวก ส.ว. 250 คน กับ พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นผู้กำหนดเกมส์แก้ รธน. ได้ทั้งหมด”
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า เมื่อพิจารณาไปยังที่มาของ ตุลาการศาล รธน. ยิ่งน่าวิตก เพราะแม่น้ำ 8 สาย ล้วนไหลมาจากต้นกำเนิดเดียวกัน 3 คน มาจาก สนช.ที่แต่งตั้งโดย คสช. อีก 5 คนมาจาก ส.ว. ชุดปัจจุบัน ที่แต่งตั้งโดย คสช. อีกเช่นเดียวกัน
"ดิฉันขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้ร่วมกันจับตากระบวนการแก้ไข รธน. อย่างใกล้ชิดและส่งเสียงเมื่อเห็นความบิดพลิ้ว อย่าปล่อยให้การเขียน “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการสืบทอดอำนาจที่สมคบคิดกันโดยแต่เพียงพรรคพลังประชารัฐ พวก ส.ว. และองค์กรอิสระ โดยที่ “ประชาชน” ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมแต่อย่างใด"