วันที่ 6 มีนาคม 2564 เวลา 15.30 น. ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จังหวัดอุดรธานี ,นายปราโมทย์ ธัญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี , พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ,พ.ต.ท.สรพงษ์ งิมสันเทียะ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับแก๊งยาบ้า ประกอบด้วย นายสรชัช หรือโจ้ อุดมลาภ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/3 หมู่ 8 ซอยบ้านดงวัด ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ,นายสันติ หรือต้า เหมวิรุฬห์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 4 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ และ น.ส.เพ็ญพักตร์ หรือเจ๊พู่ แสงจันทร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276 หมู่ 6 ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้า 491,800 เม็ด ,ไอซ์ 1 กิโลกรัม ,รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ดสีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 2421 กรุงเทพมหานคร โดยกล่าวหา “มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า ,ไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตำรวจสืบทราบว่า มีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สรพงษ์ งิมสันเที่ยะ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังออกสืบสวน จนทราบว่านายสรชัช จำหน่ายยาบ้า จึงวางแผนให้สายลับล่อซื้อไอซ์ 4 กรัม และ ยาบ้า 136 เม็ด และเข้าจับกุม ซึ่งสรชัช ให้การรับสารภาพว่า ซื้อไอซ์และยาบ้ามาจาก นายสันติ หรือต้า ได้ห้องเช่าในชุมชนบ้านช้าง เขตเทศบาลนครอุดรธานี
ตำรวจจึงใช้บัตร ปปส.เข้าตรวจค้น ห้องเช่าและจับนายสันติ ได้ของกลางยาบ้า 10 เม็ด ซึ่งนายสันติสารภาพว่า รับยาบ้ามาจาก น.ส.เพ็ญพักตร์ หรือเจ๊พู่ จึงล่อซื้อยาบ้าจากเจ๊พู่ จำนวน 2,000 เม็ด ซึ่งเจ๊พู่ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ดสีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 2421 กรุงเทพมหานคร นำยาบ้ามาส่งที่ห้องเช่าของ นายสันติ ตำรวจที่ซุ่มอยู่ได้จับกุม และตรวจค้นรถ พบยาบ้า 24,000 เม็ด ,ไอซ์ 4.8 กรัม เจ๊พู่ได้สารภาพว่า ได้ซุกซ่อนยาบ้าไว้ที่บ้านอีก 3 กระสอบ ตำรวจจึงควบคุมตัวเจ๊พู่เข้าตรวจค้นบ้าน พบยาบ้า 466,000 เม็ด และ ไอซ์ 1 กิโลกรัม
จากการสอบสวน น.ส.เพ็ญพักตร์ หรือเจ๊พู่ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างท้าวเพชร ชาวลาว นำยาบ้ามาส่งลูกค้าในเขต จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู โดยจะนำยาบ้าไปส่งลูกค้าตามคำสั่งท้าวเพชร โดยจะได้ค่าจ้างเม็ดละ 1 บาท โดยลักลอบทำมานานแล้ว ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ท้าวเพชร ได้นำยาบ้ามาส่ง 300 มัด หรือ 6 แสนเม็ดมาให้ตน และให้ตนไปส่งลูกค้าแล้ว 108,000 เม็ดแล้ว ยาบ้าที่เหลือ จึงทยอยขายส่งให้กับลูกค้า และมาถูกจับเป็นครั้งแรก
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ยาบ้าล็อตนี้จะนำมาส่งใน จ.อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะทยอยขนยาบ้ามาครั้งละไม่มาก เข้ามาพักไว้อำเภอรอบนอก ก่อนขนยาบ้าเข้ามาขายในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่เคยมีประวัติการถูกจับกุมมาก่อน ซึ่งก่อนนี้ผู้ที่คลุ้มคลั่งและทำร้ายญาติ คนใกล้ชิด และชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตำรวจจะปฎิบัติการในเชิงรุกในการปราบปรามยาเสพติดให้เข้มข้น และเด็ดขาด พร้อมกับตรวจยึดทรัพย์ตามมาตรการ ดังกล่าว.
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตำรวจสืบทราบว่า มีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สรพงษ์ งิมสันเที่ยะ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังออกสืบสวน จนทราบว่านายสรชัช จำหน่ายยาบ้า จึงวางแผนให้สายลับล่อซื้อไอซ์ 4 กรัม และ ยาบ้า 136 เม็ด และเข้าจับกุม ซึ่งสรชัช ให้การรับสารภาพว่า ซื้อไอซ์และยาบ้ามาจาก นายสันติ หรือต้า ได้ห้องเช่าในชุมชนบ้านช้าง เขตเทศบาลนครอุดรธานี
ตำรวจจึงใช้บัตร ปปส.เข้าตรวจค้น ห้องเช่าและจับนายสันติ ได้ของกลางยาบ้า 10 เม็ด ซึ่งนายสันติสารภาพว่า รับยาบ้ามาจาก น.ส.เพ็ญพักตร์ หรือเจ๊พู่ จึงล่อซื้อยาบ้าจากเจ๊พู่ จำนวน 2,000 เม็ด ซึ่งเจ๊พู่ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ดสีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 2421 กรุงเทพมหานคร นำยาบ้ามาส่งที่ห้องเช่าของ นายสันติ ตำรวจที่ซุ่มอยู่ได้จับกุม และตรวจค้นรถ พบยาบ้า 24,000 เม็ด ,ไอซ์ 4.8 กรัม เจ๊พู่ได้สารภาพว่า ได้ซุกซ่อนยาบ้าไว้ที่บ้านอีก 3 กระสอบ ตำรวจจึงควบคุมตัวเจ๊พู่เข้าตรวจค้นบ้าน พบยาบ้า 466,000 เม็ด และ ไอซ์ 1 กิโลกรัม
จากการสอบสวน น.ส.เพ็ญพักตร์ หรือเจ๊พู่ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างท้าวเพชร ชาวลาว นำยาบ้ามาส่งลูกค้าในเขต จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู โดยจะนำยาบ้าไปส่งลูกค้าตามคำสั่งท้าวเพชร โดยจะได้ค่าจ้างเม็ดละ 1 บาท โดยลักลอบทำมานานแล้ว ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ท้าวเพชร ได้นำยาบ้ามาส่ง 300 มัด หรือ 6 แสนเม็ดมาให้ตน และให้ตนไปส่งลูกค้าแล้ว 108,000 เม็ดแล้ว ยาบ้าที่เหลือ จึงทยอยขายส่งให้กับลูกค้า และมาถูกจับเป็นครั้งแรก
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ยาบ้าล็อตนี้จะนำมาส่งใน จ.อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะทยอยขนยาบ้ามาครั้งละไม่มาก เข้ามาพักไว้อำเภอรอบนอก ก่อนขนยาบ้าเข้ามาขายในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่เคยมีประวัติการถูกจับกุมมาก่อน ซึ่งก่อนนี้ผู้ที่คลุ้มคลั่งและทำร้ายญาติ คนใกล้ชิด และชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตำรวจจะปฎิบัติการในเชิงรุกในการปราบปรามยาเสพติดให้เข้มข้น และเด็ดขาด พร้อมกับตรวจยึดทรัพย์ตามมาตรการ ดังกล่าว.