วันที่5 มี.ค.64พล.ต.อ.จักร์ทิพย ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.และผู้ลงสมัครลงรัวบเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้โพสต์ข้อความและภาพบนเพจเฟสบุ๊คว่า
เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มี.ค. 64 ผมได้มีโอกาสไปกราบนมัสการหลวงพ่อฉิม วัดสุทธาราม เขตคลองสานและถวายเงินแด่ท่านเจ้าคุณพระพิศาลประชานารถ ท่านเจ้าอาวาสและประธานมูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ ซึ่งดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยฟอกไตให้กับชาวบ้านยากจน หลังจากนั้นได้เดินทักทายพ่อแม่พี่น้องในตลาดชุมชนสุทธารามตลอดจนไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงในละแวกใกล้เคียง ได้เห็นความยากลำบากของผู้ป่วยและญาติๆ นึกถึงคนเหล่านี้เลยครับ เมื่อก่อนเขาเป็นกำลังหลักในสังคมเรา ทำมาหากิน สร้างรายได้จ่ายภาษีบำรุง กทม.และประเทศของเรา มาวันนี้ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความชราเข้ามาเยือน ความสามารถในการทำมาหากินของเขาลดลงหรือขาดหาย กลายเป็นภาระของลูกหลาน
ผมมานึกๆดู เราลืมพวกเขาไปหรือเปล่าครับ กลับกลายเป็นภาระให้เขาต้องช่วยเหลือกันเอง เรามัวแต่ไปพัฒนาสิ่งก่อสร้างกันใหญ่โต มี นวัตกรรมที่ทันสมัย มีคำพูดสวยหรูไว้หาเสียงกัน แล้วเราเคยคิดถึงคนเหล่านี้ไหม คนที่เคยแข็งแรง เคยเลี้ยงดูหล่อเลี้ยงสังคมของพวกเรา วันนี้เราเดินไปข้างหน้า แล้วลืมคิดถึงพวกเขาหรือเปล่าครับ ผมว่าเราต้องหันกลับมาดูแลพวกเขา นิสัยของผมนั้นไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลังครับ โดยเฉพาะตอนนี้ประเทศเราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กรุงเทพฯก็เหมือนกันครับ แล้วเราจะดูแลเขาอย่างไรดี
อันแรกเลยนะครับ ผมว่าเราต้องมีโรงพยาบาลผู้สูงอายุใน กทม.ให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีที่เดียวคือ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน ถือว่าอยู่ทางกรุงเทพตอนใต้ ผู้สูงอายุในพื้นที่อื่นๆจะต้องเดินทางไกลและลำบากเพื่อที่จะมารับบริการ เราก็ควรจะเพิ่ม รพ.ผู้สูงอายุให้ครอบคลุมทั้งสี่มุมเมืองของกรุงเทพฯเลย เราไม่ต้องสร้างใหม่หรอกครับ แค่ปรับปรุง รพ.ของ กทม.ที่มีอยู่แล้ว ให้ยกระดับขึ้นเป็น รพ.ผู้สูงอายุ ทำยังไงหรอครับ เราก็แค่ปรับปรุงบุคลากรให้มีความเขี่ยวชาญชำนาญในโรคที่ผู้สูงอายุชอบเป็น เพิ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุให้มากขึ้น คำว่า รพ.ผู้สูงอายุ จึงไม่ใช่สำหรับผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวครับ ผู้เจ็บป่วยทั่วไปก็สามารถใช้บริการได้ เพียงแต่เรามีบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางของผู้สูงอายุให้มากขึ้นเท่านั้น
ที่นี้มาพูดถึงการเดินทาง เรามาดูตามต่างจังหวัด พวกเทศบาลต่างๆ เขาจะมีรถไว้คอยบริการส่งคนเจ็บคนป่วยไปหาหมอ โดยเฉพาะพวกผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่ รพ.ที่ห่างไกลจากที่พัก ของดีๆบริการดีๆแบบนี้เราเอามาใช้ในกรุงเทพฯซิครับ จัดหารถพยาบาลไปเลยครับ เขตละ 5 คัน ใช้คุ้มครับ ช่วยสงเคราะห์คนเจ็บ คนป่วย คนตาย เวลามีอุบัติเหตุก็ได้ช่วยเหลือชีวิตคนอีก เพิ่มเติมอีกหน่อย เนื่องจากกรุงเทพฯการจราจรติดขัด จัดหามอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปเลยครับ เป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว เขาไปดูแลคนเจ็บป่วยได้ทันท่วงทีหรือรับส่งคนป่วยในระยะใกล้ๆ
ไหนๆก็พูดถึงการบริการการรักษาพยาบาลให้พี่น้องเราชาวกรุงเทพฯแล้ว เท่านี้ยังไม่พอครับ เรายังสามารถดูแลพี่น้องได้มากขึ้นไปอีก ศูนย์สาธารณสุขของ กทม.นั้นไงครับ มีถึง 69 ศูนย์ทั่วกรุงเทพฯ ตามต่างจังหวัดไกลๆ เขาแก้ปัญหาการดูแลระบบสาธารณสุขพี่น้องประชาชนของเขา โดยยกระดับสถานีอนามัยเป็น รพ.ตำบลกันไปแล้วครับ โอ้ พระเจ้า เรื่องดีๆแบบนี้ ง่ายๆแบบนี้ ทำไมเราไม่ทำครับ กรุงเทพฯเมืองเจริญ บุคลากรก็หาได้ง่ายกว่า งปประมาณก็มีมากกว่า จริงไหมครับ หาหมอไปอยู่ที่หนองหมาว้อกับ กทม.อันไหนง่ายกว่ากันครับ ยกระดับไปเลยซิครับ ศูนย์สาธารณสุข 69 ศูนย์ ยกระดับเป็น รพ.ขนาดเล็กครับ ประจำเขตต่างๆไป ค่อยๆทำไปครับ อันไหนพร้อมก็ทำก่อน อันไหนยังไม่พร้อมก็ค่อยๆหาบุคลากรกับงปประมาณเพื่อปรับปรุงต่อไป
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นความรู้สึกของผม ที่อยากเปลี่ยนแปลง อยากดูแล พี่น้องเราชาว กทม.จริงๆครับ อย่าคิดว่าทำไม่ได้หรือทำยาก ถ้าผมมีโอกาส ผมจะทำให้ดูครับ สมัยผมเป็นตำรวจเป็นสารวัตร 191 ผมก็นั่งรถสายตรวจ ตรวจกับลูกน้องตลอด เวลามีเหตุการณ์ต่างๆ ผมลงพื้นที่กับลูกน้องตลอดเวลา ผมเป็นนักปฎิบัติครับ เอาเถอะครับ อาจจะเขียนพูดแบบบ้านๆ ศัพท์แสงไม่เท่ห์ แต่รับรองครับ ถ้ามีโอกาสผมทำได้ครับ