วันนี้ (1 ก.ย.60) ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) นำโดยพลโท ดร. วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการ ชสอ. ดร.สมนึก บุญใหญ่ รองประธานกรรมการ ชสอ. และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รังสรรค์ ปิติปัญญา กรรมการดำเนินการ ชสอ. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือทางวิชาการ จัดการศึกษาสำหรับบุคลากรสหกรณ์ออมทรัพย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.สันติยา เอกอัคร รักษาการแทนรองคณบดีฝ่ายบริหาร รักษาการแทนผู้รักษาการแทนคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ นายไพโรจน์ ลิ้มศรีสกุลวงศ์ หัวหน้าภาควิชาสหกรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ และดร.พรประภา คิคุทจิ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์สหกรณ์ (ภาคพิเศษ) คณะเศรษฐศาสตร์ ณ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด จังหวัดนนทบุรี
พลโท ดร. วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ชสอ. ในฐานะศูนย์กลางของสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย เห็นความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องพัฒนาบุคลากรด้วยการให้การศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรสหกรณ์ออมทรัพย์ให้มีความรู้ และคุณวุฒิเพิ่มขึ้น สามารถดำเนินงานให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มแข็ง รวมทั้งให้โอกาสศึกษาต่อแก่บุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยมุ่งหวังที่จะให้บุคลากรมีคุณภาพ สามารถขับเคลื่อนงานของสหกรณ์ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ ดังนั้น ชสอ. ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือทางวิชาการจัดการศึกษา ขึ้น เพื่อส่งเสริม ทางด้านการศึกษาในการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรสหกรณ์ออมทรัพย์ และ ชสอ.ให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และคุณวุฒิเพิ่มขึ้นสามารถดำเนินงานให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มแข็ง และบริหารงานได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์
ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชสอ. ได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์สหกรณ์ (ภาคพิเศษ) คณะเศรษฐศาสตร์ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งหมด 74 ทุน ทุนละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,220,000 บาท เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาต่อแก่บุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ตามวัตถุประสงค์ของความร่วมมือดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการดำเนินการ ชสอ. ชุดที่ 45 เห็นชอบให้ปรับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากเดิมทุนละ 30,000 บาท เป็นทุนละ 50,000 บาท จำนวน 5 ทุน เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท และเนื่องจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับก่อน ได้ครบกำหนดระยะเวลาของความร่วมมือแล้ว เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการดำเนินการ ชสอ. จึงเห็นสมควรจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการฉบับใหม่ขึ้น
พลโท ดร. วีระ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมมือกันในการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ ในลักษณะของการร่วมกันจัดทำกิจกรรม ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ การวิจัยเพื่อพัฒนาขบวนการสหกรณ์ การจัดการฝึกอบรม (ระยะสั้น และระยะปานกลาง) และการสัมมนาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการพัฒนาการบริหารจัดการ และการจัดกิจกรรมระหว่างขบวนการสหกรณ์และสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยบทบาทหน้าที่ของ ชสอ. จะเป็นสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร และการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ และ ชสอ. เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา พร้อมประสานงานกับสหกรณ์ออมทรัพย์ และส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการตามโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ขณะที่บทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้จัดการศึกษา ถ่ายทอด เผยแพร่ความรู้ สร้างและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนตามความเหมาะสม โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี
พลโท ดร. วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ชสอ. ในฐานะศูนย์กลางของสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย เห็นความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องพัฒนาบุคลากรด้วยการให้การศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรสหกรณ์ออมทรัพย์ให้มีความรู้ และคุณวุฒิเพิ่มขึ้น สามารถดำเนินงานให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มแข็ง รวมทั้งให้โอกาสศึกษาต่อแก่บุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยมุ่งหวังที่จะให้บุคลากรมีคุณภาพ สามารถขับเคลื่อนงานของสหกรณ์ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ ดังนั้น ชสอ. ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือทางวิชาการจัดการศึกษา ขึ้น เพื่อส่งเสริม ทางด้านการศึกษาในการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรสหกรณ์ออมทรัพย์ และ ชสอ.ให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และคุณวุฒิเพิ่มขึ้นสามารถดำเนินงานให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มแข็ง และบริหารงานได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์
ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชสอ. ได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์สหกรณ์ (ภาคพิเศษ) คณะเศรษฐศาสตร์ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งหมด 74 ทุน ทุนละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,220,000 บาท เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาต่อแก่บุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ตามวัตถุประสงค์ของความร่วมมือดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการดำเนินการ ชสอ. ชุดที่ 45 เห็นชอบให้ปรับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากเดิมทุนละ 30,000 บาท เป็นทุนละ 50,000 บาท จำนวน 5 ทุน เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท และเนื่องจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับก่อน ได้ครบกำหนดระยะเวลาของความร่วมมือแล้ว เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการดำเนินการ ชสอ. จึงเห็นสมควรจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการฉบับใหม่ขึ้น
พลโท ดร. วีระ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมมือกันในการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ ในลักษณะของการร่วมกันจัดทำกิจกรรม ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ การวิจัยเพื่อพัฒนาขบวนการสหกรณ์ การจัดการฝึกอบรม (ระยะสั้น และระยะปานกลาง) และการสัมมนาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการพัฒนาการบริหารจัดการ และการจัดกิจกรรมระหว่างขบวนการสหกรณ์และสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยบทบาทหน้าที่ของ ชสอ. จะเป็นสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร และการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ และ ชสอ. เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา พร้อมประสานงานกับสหกรณ์ออมทรัพย์ และส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการตามโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ขณะที่บทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้จัดการศึกษา ถ่ายทอด เผยแพร่ความรู้ สร้างและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนตามความเหมาะสม โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี