จนท.บิน ฮ.บุกจับลูกปู่คออี้และพวกรวม20คน ตามหมายจับ พร้อมนำชาติพันธ์อีกกว่า 60 คนลงจาก บางกลอยบน ชาวกะหร่างรวมตัวกดดันเจ้าหน้าที่หนัก ขณะที่ชาวแก่งกระจาน ถือป้าย Save แก่งกระจานให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานสนธิกำลังตำรวจ-ทหาร นำ ฮ.3 ลำ นำหมายจับจากศาลบินขึ้นไป รับลูกปู่คออี้กับพวกทั้งหมดลงมาจากใจแผ่นดิน เพื่อให้กลับบ้านบางกลอยล่าง ขณะที่ “เกรียงไกร ชีช่วง” นำทนายความสิทธิมนุษยชนและกลุ่มชาติพันธุ์ ขอพบผู้ถูกควบคุมตัว พร้อมก้มกราบโดยไม่ถูกบังคับ ส่วนกลุ่มชาวบ้านพื้นที่ถือป้าย SAVE แก่งกระจาน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำถูกต้องแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 5 มีนาคม ประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นำกำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ บินเข้าไปยังป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานช่วงรอยต่อกับประเทศเมียนมา บ้านบางกลอยบน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี บริเวณที่เรียกว่า “ใจแผ่นดิน” โดยก่อนหน้านี้ นายพนัชพร โพธิบัณฑิต หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไปแจ้งความที่ สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่ามีกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อนุมัติหมายจับเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมกลุ่มผู้บุกรุกในวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯได้บินขึ้นไปที่ใจแผ่นดินมาแล้ว 3 ครั้งตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเจรจาขอให้กลุ่มผู้บุกรุกลงมาโดยนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับ หลังจากที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง(กะหร่าง)หลายครอบครัวพากันอพยพจากบ้านบางกลอยล่างขึ้นไปที่บริเวณ “ใจแผ่นดิน” เมื่อประมาณกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา มีส่วนหนึ่งยอมกลับลงมา แต่อีกประมาณกว่า 50 คนที่มีนายนอแอ๊ะ มีมิ บุตรชายของนายคออี้ มีมิ รวมอยู่ด้วยไม่ยอมกลับลงมา ขณะเดียวกันเมื่อเจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปสำรวจ พบว่าป่าบริเวณใจแผ่นดินซึ่งเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรีถูกบุกรุกแผ้วถางขยายวงเพิ่มขึ้น เมื่อเจรจาไม่เป็นผล จึงจำต้องแจ้งความดำเนินคดีและขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งการขึ้นไปจับกุมครั้งนี้ไม่มีการใช้กำลังต่อผู้ถูกจับกุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายเกรียงไกร ชีช่วง ผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี นำกลุ่มชาติพันธุ์จาก อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กว่า 50 คน มาที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมตัวกันที่ร้านอาหารสวัสดิการของอุทยานฯ อ้างว่ามาเพื่อต้องการพบกลุ่มชาวกะเหรี่ยงที่ถูกควบคุมตัว อ้างว่าการที่กลุ่มกะเหรี่ยงกลับขึ้นไปที่ใจแผ่นดินเป็นสิทธิมนุษยชนที่สามารถทำได้ ขณะเดียวกันก็มีนายบุญชู วงศ์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน กับชาวบ้านประมาณกว่า 20 คน ถือป้าย “SAVE แก่งกระจาน” บอกว่าขอสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และว่าที่ดินที่รัฐจัดให้มาแต่เดิมคนละ 7 ไร่น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่อยากให้คนกลุ่มนี้กลับไปบางกลอยบนอีกเพราะเป็นห่วงป่าไม้จะถูกทำลายขยายวงมากขึ้น และเป็นภัยต่อความมั่นคงเนื่องจากมีชาวเมียนมาลักลอบเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนบริเวณพื้นที่รัฐจัดให้คนละ 7 ไร่ที่บางกลอยล่างบางแห่งเพียงพอต่อการทำมาหากิน บางแห่งก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีการทำประโยชน์แต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวชาติพันธุ์ ประมาณ 80 คน ซึ่งประกอบด้วย นายนอแอ๊ะ มิมิ ลูกนายคออี้ และผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 20 คนและกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อยู่รวมกันทั้งเด็กและผู้หญิง ทยอยเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์รวมประมาณ 35 เที่ยวบิน ลงมาควบคุมตัวอยู่ที่ อาคารหอประชุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กระทั่งเวลา 15.30 น. นายเกรียงไกรขอให้ตนและทนายความสิทธิมนุษยชนพร้อมตัวแทนชาติพันธุ์เป็นตัวแทนเข้าไปพบผู้ถูกจับกุมเพื่อต้องการเห็นสภาพเป็นอยู่ในที่ควบคุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม อนุญาตให้ทนายความเพียงคนเดียวเข้าไป เมื่อทนายความออกมาก็แจ้งต่อนายเกรียงไกรว่าพบผู้ถูกควบคุมตัวเพียง 15 คน เป็นเหตุให้กลุ่มชาติพันธุ์ของนายเกรียงไกรลุกฮือเพื่อที่จะพยายามเข้าไปในห้องให้ได้ เจ้าหน้าที่ก็อธิบายว่าทุกคนอยู่ครบ แต่ถูกแยกไปสอบสวน แต่นายเกรียงไกรไม่ยอมฟังพยายามพาพวกจะบุกเข้าไปให้ได้ กำลังเจ้าหน้าที่อุทยาน, ตำรวจ และทหารจำนวนมากจึงผลักดันไม่ให้เข้า และในช่วงหนึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ได้พร้อมกันก้มลงกราบเพื่อต้องการผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ ซึ่งการกราบไม่มีใครบังคับให้กราบแต่อย่างใด จากนั้นกลุ่มชาติพันธ์นำโดย กลุ่มผู้หญิงและเด็กได้พยายามเดินฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่อุทยานซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานได้ก่อประสานมือเป็นกำแพงกั้นและใช้เจ้าหน้าที่กองร้อยน้ำหวานซึ่งเป็น ผู้พิทักษ์ป่าผู้หญิง เป็นแนวปะทะด้านหน้า มีการดึงดันกันนานกว่า 10 นาทีจากนั้นกลุ่มชาติติพันธ์จึงยินยอมนั่งลงและร้องขอให้นายนิรันดร์ พงษ์เทพ หรือ ดีป่ะก้อ ผญบ.หมู่ 1 บ้านบางกลอย ซึ่งเป็นพยานในการปฏิบัติการครั้งนี้และร่วมเป็นพยานในการสอบสวนเบื้องต้น ออกมาชี้แจงสถานการณ์การควบคุมตัวดังกล่าว เบื้องต้นนายนิรันดร์ได้ออกมาชี้แจงว่าชาติพันธุ์ที่ถูกควบคุมตัวมาทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างดีมีการกระจายกันอยู่ตามห้องต่างๆในพื้นที่อาคารควบคุมตัวโดยทั้งหมดได้รับ ประทานอาหารและน้ำดื่มตลอดจนได้รับความอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี นายเกรียงไกร จึงได้ยื่นข้อเสนอขอให้นายนิรันดร์สอบถามเจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจในการควบคุมตัวจำนวน 3 ข้อ 1 . ขอให้ตนและตัวแทนญาติเข้าพบกับผู้ที่ถูกจับกุม 2. ต้องการทราบว่าผู้ที่ถูกจับกุม นอกเหนือจากผู้ที่ถูกออกหมายจับ เป็นใครบ้าง 3 ต้องการ ขอ ทราบจำนวน เงินและวิธีการประกันตัวผู้ถูกจับกุม ตามหมายจับทั้ง 20 ราย โดยเบื้องต้นกลุ่มชาติพันธุ์ได้ประสานทนายความของกลุ่มให้เดินทางมายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว