“ทิพานัน”ตอกพรรคการเมืองสร้างสงครามน้ำลายทำลายบรรยากาศเลือกตั้ง ยันพปชร.มีอุดมการณ์ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจหนุน “บิ๊กตู่”เพราะผลงานชัด เหน็บอย่าร้องหาแต่มารยาท จนหลงลืมสปิริต
วันที่ 5 มี.ค.64 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นห่วงบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช กรณีที่บางพรรคการเมืองโจมตีพรรคพลังประชารัฐ กล่าวหาว่าเป็นพรรคตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนคนเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า โดยหลักการแล้วการแข่งขัน ควรต่อสู้กันด้วยนโยบาย และผลงาน หรือว่านึกว่าไม่ออกว่ามีผลงานอะไรบ้าง จึงสร้างวาทกรรมใส่ร้ายป้ายสี หรือดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม เพื่อกลบเกลื่อน ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง พรรคพลังประชารัฐ ก่อตั้งขึ้นจากอุดมการณ์ในการสร้างการเมืองใหม่ สำหรับประเทศไทย ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ มีวิสัยทัศน์ ซึ่งท่านได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แล้วครองใจประชาชน โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้ผลักดันนโนยายฝ่ายแกนนำรัฐบาล จนเกิดการลงทะเบียนผู้มีรายได้และนำไปสู่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับสวัสดิการและการช่วยเหลือต่างๆ ผ่านบัตร
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า และจากการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ควบตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างสมดุล มาตรการที่ออกมาเยียวยาพี่น้องประชาชน ต่างได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการเราชนะ โครงการม.33เรารักกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือร้อนให้กับพี่น้องประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว ยังเป็นการบูรณาการฐานข้อมูลเข้าสู่ยุคดิจิทัล เพื่อเป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้เหมายแต่ละกลุ่มในอนาคตด้วย
“จะเห็นได้ว่า พรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อนำการเมืองที่สร้างสรรค์ เน้นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่เหมือนบางพรรคการเมืองที่ เอะอะก็ขอเงินครม. ใช้เงินแก้ไขปัญหาเพิ่ม ไม่ได้ใช้มาตรการใหม่ที่จะเกิดการต่อยอดไปสู่อนาคตได้ เหมือนยุคไดโนเสาร์”น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมามักจะได้ยินวาทกรรมเรียกร้องหา มารยาททางการเมือง โดยหลงลืมหลักการประชาธิปไตย และสปิริตในการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และสามารถสร้างบรรยากาศความงดงามทางการเมืองได้ แต่กลับมีความพยายามดึงไปให้กลายเป็นการเมืองน้ำเน่า สร้างสงครามน้ำลาย ทำลายบรรยากาศเลือกตั้ง มุ่งแต่เอาชนะจนขาดสาระหลักในการหาเสียงเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน