นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กThira Woratanarat ระบุว่า ...
สถานการณ์ทั่วโลก 5 มีนาคม 2564...
ทะลุ 116 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 544,109 คน รวมแล้วตอนนี้ 116,156,494 คน ตายเพิ่มอีก 11,805 คน ยอดตายรวม 2,579,261 คน
อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 87,408 คน รวม 29,508,887 คน ตายเพิ่มอีก 2,170 คน ยอดตายรวม 533,220 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 16,819 คน รวม 11,173,567 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 71,511 คน รวม 10,793,732 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 11,385 คน รวม 4,290,135 คน
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 6,573 คน รวม 4,201,358 คน
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่ม ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า
ในขณะที่แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพัน
เกาหลีใต้ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนเมียนมาร์ จีน สิงคโปร์ ไทย ออสเตรเลีย และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
ตอนนี้บางประเทศ เริ่มเห็นความเข้าใจผิด คิดว่ามีวัคซีนเข้ามาเริ่มฉีดในประเทศแล้วเร่งคลายล็อคการใช้ชีวิต เปิดเศรษฐกิจ หรือเปิดประเทศ...ที่เห็นชัดเจนในไม่กี่วันที่ผ่านมาคือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหลายรัฐที่ผู้ว่าการรัฐพยายามออกมาประกาศว่าจะให้รัฐของตนเปิดเต็มที่ตั้งแต่สัปดาห์หน้า เช่น เท็กซัส และมิสซิสซิปปี จนต้องมีคำทักท้วงจากประธานาธิบดี และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ออกมาเตือนว่า ไม่ควรผ่อนคลายเร็วเกินไป เพราะจะเกิดหายนะระบาดซ้ำตามมาอย่างแน่นอน ตราบใดที่วัคซีนยังไม่ได้รับการฉีดอย่างครอบคลุม
เฉกเช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวของหลายประเทศในยุโรป อย่างออสเตรีย และเดนมาร์ก ก็ประกาศความร่วมมือกับอิสราเอล เพื่อหาทางจัดซื้อจัดหาและดำเนินการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี ให้แก่ประชาชนของตนเอง โดยทางประเทศจากยุโรปหวังจะศึกษาบทเรียนแห่งความสำเร็จของอิสราเอลที่ทำการจัดหาวัคซีน Pfizer/Biontech ให้แก่ประชาชนของเค้าได้อย่างรวดเร็ว ปริมาณมากเพียงพอ และฉีดได้เร็วเป็นอันดับ 1 ของโลก
ย้ำอีกครั้งว่า การเลือกฉีดวัคซีนป้องกันโรคนั้นเป็นสิทธิของประชาชนอย่างเราทุกคน ที่จะตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับ
การเลือก ควรพิจารณาสรรพคุณ 3 อย่างหลัก ได้แก่ สรรพคุณป้องกันการติดเชื้อ สรรพคุณป้องกันอาการป่วย และสรรพคุณลดความรุนแรงหรือการเสียชีวิต โดยวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีหลายชนิด และมีสรรพคุณที่แตกต่างกันไป
นอกจากสรรพคุณดังกล่าวแล้ว ควรพิจารณาข้อมูลเรื่องความปลอดภัย โดยดูจากรายงานการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่สามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้ และควรพิจารณาเรื่องรายละเอียดการศึกษาวิจัยที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการแพทย์สากล ซึ่งจะสามารถเห็นข้อดีหรือข้อจำกัดได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ต้องตระหนักเสมอว่า มีวัคซีนไม่กี่ตัว ที่ได้รับการวิจัยพิสูจน์ว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ เช่น Pfizer/Biontech, Moderna, Johnson&Johnson แต่ก็ป้องกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ดังนั้นการใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ อยู่กันห่างๆ ลดละเลี่ยงการตะลอนพบปะสังสรรค์ หรือไปในที่ที่แออัด ยังคงต้องปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง
ตราบใดที่โรคระบาดยังมีอยู่ทั่วโลก และยังมีการระบาดต่อเนื่อง วิถีชีวิตแบบเดิมจะไม่มีทางที่จะทำได้ครับ แต่คงต้องปรับตัวกัน ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน ทำงาน ประกอบธุรกิจค้าขายหรือบริการ หรือแม้แต่เรื่องการเรียนการสอนก็ตาม
เอาใจช่วยทุกคน และเราจะปลอดภัยไปด้วยกัน
ขอบคุณข้อมูลและภาพ เฟซบุ๊กThira Woratanarat