พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ผบก.ปทส.) เรียกประชุมพนักงานสอบสวน หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้โอนสำนวนคดีที่นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และพรรคพวกกระทำผิดเกี่ยวกับการตัดไม้บุกรุกป่าสงวน และการก่อสร้างวังพญานาค จาก สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร มาให้ บก.ปทส.ดำเนินการ
โดย พล.ต.ต.พิทักษ์ เปิดเผยว่า หลังมีคำสั่งโดนสำนวนได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อวางแนวทางการสอบสวนก่อนเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบในสัปดาห์หน้า ซึ่ง สภ.กกตูม ดำเนินการไปพอสมควรแล้ว โดย บก.ปทส.จะรับสำนวนมาตรวจสอบว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ เรียกสอบพยานใดบ้าง ซึ่งคดีนี้จะเป็นการบุกรุกหรือไม่ ยังไม่อาจยืนยันได้ต้องไปตรวจสอบดูว่าแนวเขตนั้นเป็นป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ รวมถึงสอบถามเจตนาผู้กระทำผิดว่าเป็นอย่างไร และก่อนหน้านี้ ได้สั่งการให้ กก.3 บก.ปทส. สืบสวนรวบรวมข้อมูลไว้ก่อนแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และคดีไม่สลับซับซ้อนมาก อีกทั้งรู้ตัวละครในคดีตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
ผบก.ปทส. กล่าวอีกว่า คดีนี้หากพบการกระทำความผิด ในส่วนของการก่อสร้างพญานาค จะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นอีกครั้งว่าจะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะได้หรือไม่ ส่วนการเรี่ยไรเงินรับบริจาค เบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนแต่ต้องไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
โดย พล.ต.ต.พิทักษ์ เปิดเผยว่า หลังมีคำสั่งโดนสำนวนได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อวางแนวทางการสอบสวนก่อนเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบในสัปดาห์หน้า ซึ่ง สภ.กกตูม ดำเนินการไปพอสมควรแล้ว โดย บก.ปทส.จะรับสำนวนมาตรวจสอบว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ เรียกสอบพยานใดบ้าง ซึ่งคดีนี้จะเป็นการบุกรุกหรือไม่ ยังไม่อาจยืนยันได้ต้องไปตรวจสอบดูว่าแนวเขตนั้นเป็นป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ รวมถึงสอบถามเจตนาผู้กระทำผิดว่าเป็นอย่างไร และก่อนหน้านี้ ได้สั่งการให้ กก.3 บก.ปทส. สืบสวนรวบรวมข้อมูลไว้ก่อนแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และคดีไม่สลับซับซ้อนมาก อีกทั้งรู้ตัวละครในคดีตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
ผบก.ปทส. กล่าวอีกว่า คดีนี้หากพบการกระทำความผิด ในส่วนของการก่อสร้างพญานาค จะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นอีกครั้งว่าจะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะได้หรือไม่ ส่วนการเรี่ยไรเงินรับบริจาค เบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนแต่ต้องไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง