เมื่อวันที่ 4 มี.ค.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบรรยากาศการเลือกตั้งโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต3 จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ตอนนี้ตนเป็นประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีสิทธิ์อยู่ในบัญชีผู้ช่วยหาเสียงของคุณพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เบอร์3 ซึ่งเป็นน้องชายได้ แต่จะใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง เพื่อแสดงความเห็นทางการเมือง ถึงบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคใช้กลไกรัฐเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งบางพรรค มีการใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ และอำนาจนักเลง เข้ามาเกี่ยวข้อง มีการกดดันหัวคะแนนของพรรคคู่แข่ง ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำท้องที่อย่างหนัก และในโค้งสุดท้ายได้มีแกนนำของพรรคการเมืองบางพรรค ลงพื้นที่ปักหลักค้างแรมอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อหวังผลในการพลิกคะแนนเสียงให้ผู้สมัครสังกัดพรรคของตัวเองได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง ในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้คลุกคลีกับการเลือกตั้งมาหลายครั้ง ยังเชื่อมั่นในพลังของประชาชนที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ จากการลงพื้นที่ของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลายท่าน เช่นนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และสมาชิกพรรคคนอื่นๆ พบว่าได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะต้องรักษาที่นั่งของพรรคไว้ให้ได้
"ขณะที่พรรคการเมืองบางพรรคที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล กลับส่งผู้สมัครเข้าแข่งขันตั้งด้วย ทั้งๆที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และผลการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ก็ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆในรัฐบาล แต่เป็นการแข่งขันกันเอง สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ซึ่งเป็นการได้ไม่คุ้มเสีย และเชื่อว่าประชาชนที่สนใจการเมือง จะเข้าใจดีว่าพรรคการเมืองบางพรรคมีมารยาททางการเมืองหรือไม่ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความผูกพันกับพี่น้องภาคใต้มาเป็นเวลายาวนาน เชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนให้เป็นพรรคการเมืองที่อยู่คู่ประชาชนคนภาคใต้เหมือนเดิม"นายเทพไท กล่าว