เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมป่าสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมือง หลังรับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาลักลอบข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย โดยเฝ้าติดตามกระทั่งพบกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งหญิงและชาย จำนวน 32 น เดินเท้าลงมาจากช่องทางธรรมชาติชายแดนเทือกเขาตะนาวศรี ช่องเขาหลัก หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว จากนั้นเข้ามากบดานในป่าสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพาราใกล้กับถนนพุไม้แก้ว เมื่อคนต่างด้าวเห็นเจ้าหน้าที่ จึงตกใจวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ที่นำกำลังเข้าปิดล้อมจึงจับกุมตัวได้ทั้งหมดอายุประมาณระหว่าง 20 - 40 ปี พร้อมกระเป๋าสัมภาระ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และแจ้งบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา 2 ราย ในข้อหาลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่นายหน้าชาวเมียนมาปฏิเสธให้ข้อมูลแก๊งคนมีสีค้าแรงงานเถื่อนและนายทุนชาวไทยที่ร่วมขบวนการ
สอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางมาจากย่างกุ้ง จ.มะริด จ.ทวาย จากนั้นจะมีนายหน้าคนไทยแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ นำไปส่งที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.สุราษฎร์ธานี อ.ปราณบุรี และ อ.หัวหิน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจวัดอุณหภูมิ เนื่องจากผู้ต้องหาบางส่วนเดินทางมาจากย่างกุ้งซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ในรถห้องขังของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจหาเชื้อโควิด 19
นายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว กล่าวว่า ตนพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้พยายามแกะรอยขบวนการค้ามนุษย์นานกว่า 2 เดือน แต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากผู้กระทำผิดไหวตัว ล่าสุดได้ติดตามพฤติกรรมนายหน้าชาวเมียนมาร์ขนแรงงานเถื่อนรายหนึ่ง เดินออกไปซื้อน้ำดื่ม เสบียงอาหารจำนวนมากที่บริเวณร้านค้า จึงเข้าไปตรวจสอบ และพบมีพิรุธ จึงสอบถามกระทั่งยอมรับ พร้อมนำไปชี้จุดหลบซ่อนตัวของผู้ต้องหาที่รอรถมารับไปส่งปลายทาง ส่วนใหญ่จะเดินทางไป จ.สมุทรสาคร เนื่องจากตลาดแพกุ้งได้เริ่มเปิดกิจการแล้ว บางส่วนอ้างว่าไปหาญาติที่อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี ซึ่งทำโรงงานสับปะรด และบางส่วนไปรับจ้างกรีดยางในภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี