จับตา"ประวิตร"ชงชื่อ"ชัยวุฒิ" ให้"นายกฯ"พิจารณาตั้งเป็น รมว.ศึกษาฯ "ตรีนุช"นั่ง"วัฒนธรรม" โยก"อิทธิพล"คุม"ดีอีเอส" หลังได้แรงหนุนจากผู้ใหญ่คนสำคัญ "กลุ่ม3ช.-สามมิตร"เซ็งโผไม่ขยับ ส่วนใหญ่อยู่ที่เดิม เหตุ"บิ๊กรัฐบาล"ไม่ปลื้มใช้จำนวนเสียง"ส.ส."กดดัน ส่วน"สุชาติ"ได้ลุ้นอยู่ต่อ ไม่หลุด"จับกัง1" "พรรคฝ่ายค้าน"บุกยื่นคำร้อง"ศาลรธน." ยันรัฐสภามีอำนาจแก้ไข รธน.ได้ "เลขาฯชวน"ชี้รัฐสภาเดินหน้านัดโหวตร่างแก้รธน.วาระ 3 แม้ศาลตีตกหมวด ส.ส.ร. ขณะที่"เสรีพิศุทธ์"ขู่ ส.ว.คว่ำร่างรธน. โดนประชาชนลุกฮือครั้งใหญ่แน่ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทดแทนตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ยังว่างอยู่ โดยทางกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร. เป็นผู้พิจารณาบุคคลภายในพรรคที่เป็นส.ส. เสนอในพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พิจารณา ซึ่งล่าสุด พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จะเป็นผู้ส่ง2รายชื่อให้นายกฯ ด้วยตัวเอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ พล.อ.ประวิตรจะเสนอชื่อนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. และนางสาวตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพปชร. ให้นายกฯ พิจารณาในการปรับครม. ครั้งนี้ โดยนายชัยวุฒิจะได้ดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ ส่วนนางสาวตรีนุช จะไปดำรงตำแหน่งรมว.วัฒนธรรม โดยจะสลับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม จากตำแหน่งรมว.วัฒนธรรม ไปดำรงตำแหน่งรมว.ดิจิทัลฯ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่คนสำคัญ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุผลสำคัญที่ทางพล.อ.ประวิตรเป็นผู้พิจารณาและเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีต่อนายกฯ เพียงผู้เดียวนั้น เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือความขัดแย้งภายในพรรคขึ้นอีก เนื่องจากแกนนำกลุ่มสำคัญในพรรคต่างต้องการได้รับการพิจารณาปรับตำแหน่งให้สูงขึ้น ได้แก่กลุ่ม 3ช. นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีความพยายามผลักดันคนในกลุ่มตัวเอง โดยเฉพาะ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่ทางกลุ่ม3ช. เคยมีแนวคิดขอแลกกระทรวงศึกษาฯ กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากทางพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้นายสันติได้นั่งรมว.เกษตรฯ เพื่อเปิดทางให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ไปนั่งรมช.คลัง แทน และจะสลับ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ไปเป็นรมว.ดิจิทัลฯ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวคงเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังพยายามผลักดัน นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพปชร. ที่ถือเป็นน้องรักของร.อ.ธรรมนัสให้ขึ้นมามีตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ แทน ในกรณีที่สามารถขยับไปเป็นรมว.แรงงานสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สูตรการปรับครม.ของกลุ่ม3ช. มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ ตามที่ต้องการ โดยรัฐมนตรีในกลุ่มดังกล่าวจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไป เนื่องจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดกรณีนำจำนวนเสียงส.ส.ในมือมาเป็นปัจจัยกดดันในการปรับตำแหน่ง เช่นเดียวกับ กลุ่มสามมิตร ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องการจะขอสลับกระทรวงไปเป็นรมว.ศึกษาธิการ หรือรมว.ดิจิทัลฯ รวมถึงความพยายามผลักดัน นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี และนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพปชร. ขึ้นมามีตำแหน่งเช่นเดียวกันนั้น ก็อาจจะไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ ในการปรับครม. ครั้งนี้ ดังนั้น การปรับครม.ครั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้ที่มีตำแหน่งอยู่เดิมก่อนหน้านี้ ก็ยังคงดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อไป เช่นเดียวกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น ก็จะยังอยู่ในตำแหน่ง รมว.แรงงาน ต่อไปเช่นเดียวกัน แม้ก่อนหน้านี้จะถูกแรงกดดันอย่างหนักจากแกนนำบางกลุ่มในพรรคพปชร. ให้หลุดจากตำแหน่งก็ตาม ทั้งนี้ คาดว่าชื่อของนายไผ่ นางบุญยิ่ง และนายสรวุฒิ จะไม่ถูกพิจารณาในการปรับครม.ครั้งที่จะถึงนี้ แต่อาจได้รับการพิจารณาในครั้งถัดไปแทน ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ,นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชน ,นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ,นายธงชาติ รัตนวิชา พรรคประชาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอส่งบันทึกถ้อยคำและความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญประกอบการพิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดย ประเสริฐ กล่าวว่า ทางพรรคฝ่ายค้านเห็นว่าศาลฯ ได้มีการขอความเห็นจากนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จำนวน 4 คน ดังนั้นเพื่อเป็นการเปิดรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย จึงได้ขอส่งบันทึกถ้อยคำเป็นข้อมูลต่อศาลรวม 7 หน้า เพื่อยืนยันว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 156 (15) บัญญัติไว้ชัดเจนว่ารัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามคิดว่าการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะทันต่อการที่สภาจะพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ3 ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. นายประเสริฐ ยังกล่าวด้วยว่า ฝ่ายค้านยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าหากการตั้งสมาชิกสภาร่างไม่สามารถเป็นไปได้จะทำอย่างไร เพราะเราคาดหวังไว้ว่างรัฐสภาน่าจะผ่านวาระ 3 ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนเรียกร้อง รัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชนจะเห็นด้วยกับการผ่านวาระ 3 ทางด้าน นายราเมศ รัตนเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมพิจารณาคำร้องของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่ขอให้วินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นการให้อำนาจ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ วันที่ 4 มี.ค. ว่า ต้องติดตามการพิจารณาและคำวินิจฉัยดังกล่าวว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร. ไม่สามารถทำได้ จะทำให้ประเด็นดังกล่าวไม่สามารถพิจารณา หรือลงมติในวาระสาม ได้ อย่างไรก็ดีในเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นมี 2 ประเด็น คือ ประเด็นแก้ไขมาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และประเด็นการเพิ่มหมวดใหม่ ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นหากประเด็นว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ถูกตัดออกไป รัฐสภายังสามารถนัดประชุมเพื่อลงมติในประเด็นแรกได้ แม้ในเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญจะกำหนดว่าวาระสามคือการลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบทั้งฉบับ วันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมเเกนนำพรรคลงพื้นที่ช่วยว่าที่ ร.ต.อภิรัฐ รัตนพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 2 หาเสียงในเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้หาเสียงที่ตลาดหนองหม้อ ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์วิงวอนพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชให้โอกาสตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร โดย หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า หากรัฐธรรมนูญถูกคว่ำลงในกลางเดือนมีนาคมนี้ จะด้วยความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ หรือจะโดย 250 ส.ว.ก็ตาม ก็เชื่อว่าจะมีการลุกฮือของประชาชนครั้งใหญ่ เพราะถือเป็นการหักหลังพวกเขา ไม่ทำตามนโยบายที่รับปากเอาไว้ จึงได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้ไปคิดคว่ำกันเลย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของประชาชนเถิด ถ้าพวกคุณหักหลังประชาชน ก็เชื่อว่าวันข้างหน้าประชาชนจะตีคุณจนหลังหักอย่างแน่นอน คอยดู