รวมมีอาการไม่พึงประสงค์ 20 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1.อาการไม่รุนแรง 19 ราย มีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด 1 ราย เหนื่อย 12 รายปวดเมื่อยเนื้อตัว 4 รายคลื่นไส้ 2 ราย 2.กลุ่มอาการรุนแรง 1 ราย เตรียมรวบรวมข้อมูล ประวัติ และการตรวจต่างๆ มาให้คณะกรรมการพิจารณา
3 มี.ค.2564 ที่กระทรวงวาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ภาพรวมทั่วโลกว่า ปัจจุบันมีการติดเชื้อโควิด-19 รวม 115 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเริ่มมีแนวโน้มลดลง มีรายงานพบผู้ป่วย 3 แสนคนต่อวัน ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่มากอยู่ สำหรับในกลุ่มประเทศอาเซียน ยังต้องจับตาพบว่าในประเทศมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อ ลดลง จาก 3-4 พันคน เหลือเพียง 1 พันกว่าคนต่อวัน ในประเทศเมียนมา ก็ยังต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ พบว่าอัตราการติดเชื้อยังมีตัวเลขมากอยู่ ทั้งหมดจึงจำเป็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับการระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อ 35 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 25 ราย(แยกเป็นจากการเฝ้าระวังในระบบบริการสุขภาพ 17 ราย และจากการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุุมชน 8 ราย) และติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 ราย ทั้งนี้การคัดกรองเชิงรุกมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 14,565 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 26,108 ราย ซึ่งจำนวนผู้ติเชื้อรายใหม่วันนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าหลายวันที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตก็ยังต่ำ อย่างไรก็ตามปัจจุบันตัวเลขของประเทศไทยเริ่มลดลง แต่ยังพบผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กับผู้ป่วย หรือไปตลาดในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่แนวชายแดนแม่ฮ่องสอน ยังมีการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เกิดด้วยฝ่ายความมั่นคงยังมีการตรวจตราสม่ำเสมอจึงถือว่า ยังปลอดภัย สำหรับการระบาดในพื้นที่จ.ปทุมธานี จากการสอบสวนโรคพบการเชื่อมโยงกับกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.64-2 มี.ค.64 ทั้งสิ้น 676 ราย ดูเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1,055 ราย 87 ราย ให้ประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
นพ.โอภาส กล่าวสรุปผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 2 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 7,262 ราย เป็นบุคลากรการแพทย์สาธารณสุข และ อสม. 6,784 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 365 ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 22 ราย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง (สมุทรสาคร และปทุมธานี) 91 ราย ส่วนผลการเฝ้าระวังผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน รวม 20 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มอาการไม่รุนแรง 19 ราย มีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด 1 ราย เหนื่อย 12 รายปวดเมื่อยเนื้อตัว 4 รายคลื่นไส้ 2 ราย 2.กลุ่มอาการรุนแรง 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เพศหญิง อายุ 28 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเที่ยงวัน หลังจากนั้นเฝ้าระวัง 30 นาที อาการปกติ เวลาผ่านไปราว 4-5 ชั่วโมง เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มาที่โรงพยาบาลตรวจความดันโลหิตต่ำ เคยมีประวัติแพ้ยา Penicillin (เพนิซิลลิน) มาตั้งแต่เด็ก ภายหลังให้การรักษาด้วยการฉีดอะดรีนาลีน (Adrenaline) ดีขึ้น ขณะนี้อาการปลอดภัย อย่างไรก็ตามรายนี้ถือว่ามีอาการไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรง โดยตามระบบหากพบผู้ที่รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วมีอาการรุนแรง ต้องมีการรวบรวมข้อมูล ประวัติ และการตรวจต่างๆ มาให้คณะกรรมการพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา มีการเรียกประชุมอย่างเร่งด่วน คาดว่าผลการประชุมจะออกมาในสัปดาห์นี้
3 มี.ค.2564 ที่กระทรวงวาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ภาพรวมทั่วโลกว่า ปัจจุบันมีการติดเชื้อโควิด-19 รวม 115 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเริ่มมีแนวโน้มลดลง มีรายงานพบผู้ป่วย 3 แสนคนต่อวัน ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่มากอยู่ สำหรับในกลุ่มประเทศอาเซียน ยังต้องจับตาพบว่าในประเทศมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อ ลดลง จาก 3-4 พันคน เหลือเพียง 1 พันกว่าคนต่อวัน ในประเทศเมียนมา ก็ยังต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ พบว่าอัตราการติดเชื้อยังมีตัวเลขมากอยู่ ทั้งหมดจึงจำเป็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับการระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อ 35 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 25 ราย(แยกเป็นจากการเฝ้าระวังในระบบบริการสุขภาพ 17 ราย และจากการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุุมชน 8 ราย) และติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 ราย ทั้งนี้การคัดกรองเชิงรุกมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 14,565 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 26,108 ราย ซึ่งจำนวนผู้ติเชื้อรายใหม่วันนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าหลายวันที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตก็ยังต่ำ อย่างไรก็ตามปัจจุบันตัวเลขของประเทศไทยเริ่มลดลง แต่ยังพบผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กับผู้ป่วย หรือไปตลาดในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่แนวชายแดนแม่ฮ่องสอน ยังมีการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เกิดด้วยฝ่ายความมั่นคงยังมีการตรวจตราสม่ำเสมอจึงถือว่า ยังปลอดภัย สำหรับการระบาดในพื้นที่จ.ปทุมธานี จากการสอบสวนโรคพบการเชื่อมโยงกับกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.64-2 มี.ค.64 ทั้งสิ้น 676 ราย ดูเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1,055 ราย 87 ราย ให้ประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
นพ.โอภาส กล่าวสรุปผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 2 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 7,262 ราย เป็นบุคลากรการแพทย์สาธารณสุข และ อสม. 6,784 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 365 ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 22 ราย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง (สมุทรสาคร และปทุมธานี) 91 ราย ส่วนผลการเฝ้าระวังผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน รวม 20 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มอาการไม่รุนแรง 19 ราย มีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด 1 ราย เหนื่อย 12 รายปวดเมื่อยเนื้อตัว 4 รายคลื่นไส้ 2 ราย 2.กลุ่มอาการรุนแรง 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เพศหญิง อายุ 28 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเที่ยงวัน หลังจากนั้นเฝ้าระวัง 30 นาที อาการปกติ เวลาผ่านไปราว 4-5 ชั่วโมง เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มาที่โรงพยาบาลตรวจความดันโลหิตต่ำ เคยมีประวัติแพ้ยา Penicillin (เพนิซิลลิน) มาตั้งแต่เด็ก ภายหลังให้การรักษาด้วยการฉีดอะดรีนาลีน (Adrenaline) ดีขึ้น ขณะนี้อาการปลอดภัย อย่างไรก็ตามรายนี้ถือว่ามีอาการไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรง โดยตามระบบหากพบผู้ที่รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วมีอาการรุนแรง ต้องมีการรวบรวมข้อมูล ประวัติ และการตรวจต่างๆ มาให้คณะกรรมการพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา มีการเรียกประชุมอย่างเร่งด่วน คาดว่าผลการประชุมจะออกมาในสัปดาห์นี้