เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบสะพานเกือกม้า ซึ่งเป็นสะพานข้ามทางรถไฟจากบ้านโนนสะอาด ม.6 ต.เก่างิ้ว ข้ามไปยังฝั่งบ้านหนองหว้า ม.4 ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับ นายธนกฤต สีพรม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.4 บ.หนองหว้า ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น คนที่โพสต์เฟสบุ๊คเตือนภัยพร้อมคลิปบนสะพานเกือกม้า พร้อมข้อความระบุว่า “อย่าหาทำนะครับ ผู้สัญจรก็ระวังด้วยนะครับเจอกับตัว ดีนะเป็นรถเก๋ง ถ้าเป็นรถมอไซ มีคอขาดครับ ฝากให้ระวังนะครับ#สะพานเกือกม้าข้ามทางรถไฟรถ#บ้านโนนสะอาด#หนองหว้าสีชมพู” ซึ่งเมื่อถึงสะพานดังกล่าว ก็พบกับนายธนกฤต รวมถึงผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล อยู่ในจุดที่เกิดเหตุ
นายธนกฤต กล่าวว่า หลังเลิกงานได้ขับรถยนต์เก๋งกลับบ้านตามปกติ เมื่อถึงช่วงทางโค้งบนสะพาน รู้สึกว่ารถมีอาการคล้ายถูกดึงรั้งเอาไว้ จึงจอดรถและลงมาดูเห็นเชือกพาดอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ แต่เชือกถูกดึงจึงมองตามการไหลของเชือก และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปแชร์ในเฟสบุ๊คด้วย ขณะนั้นมองเห็นชายวัยรุ่นยืนสาวเชือกอยู่ใต้สะพานจึงตะโกนถาม แต่ได้รับคำตอบที่ไม่ชัดเจน เมื่อเชือกกระตุกจนขาดจึงขับรถกลับบ้าน บอก พ่อแม่ ญาติพี่น้องและผู้ใหญ่บ้านให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
"โดยส่วนตัวคิดว่า เป็นการกระทำของคนไม่หวังดี ที่อาจจะประสงค์ต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนที่ผ่านไปมาบนสะพานก็ได้ เนื่องจากเชือกเส้นดังกล่าวพาดบนราวสะพานทั้งขาเข้าและขาออก หากขับขี่รถจักรยานยนต์เชือกอาจจะถูกที่ลำคอ คอขาดก็ได้ จึงโพสเฟสบุ๊คเตือนภัยประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวให้มีความระมัดระวังตัว"
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมชาวบ้านได้เดินหาสิ่งที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุทำให้เชือกพาดบนสะพาน รวมถึงตรวจสอบว่ามีใครตั้งใจก่อเหตุหรือไม่ กระทั่งพบว่าวจุฬาขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 เมตร กว้าง 1.50 เมตร ตกอยู่ที่กลางทุ่งนา ห่างจากสะพานประมาณ 1 กม. จึงได้เดินไปตรวจสอบก็พบว่าววางอยู่พร้อมเชือกว่าว ซึ่งเป็นเชือกไนล่อนสีน้ำฟ้าและสีเขียวต่อกันยาวหลายร้อยเมตรม้วนรวมกันในไม้กากบาทเก็บเชือกว่าว จากนั้นได้เดินไปยังจุดที่ผู้ประสบเหตุชี้ยืนยันว่ามีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ยืนสาวเชือกในคืนที่ผ่านมา ซึ่งจุดดังกล่าวพบเชือกไนล่อนสีฟ้าพาดอยู่บนต้นไม้และรางรถไฟ จึงเก็บรวบรวมได้อีกประมาณ 100 เมตร นำกลับไป สภ.พลทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล กล่าวว่า หลังเห็นภาพที่มีการแชร์ในโซเชียลจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามและชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของคนก่อเหตุ รวมถึงสอบสวนผู้ประสบเหตุ จนพบตัวผู้ประสบเหตุและสอบสวนจนทราบรายละเอียดจึงลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุทั้งบนสะพานและใต้สะพาน กระทั่งพบว่าวและเชือกว่าวยาวหลายร้อยเมตรวางอยู่ที่ทุ่งนา จึงเชื่อได้ว่า เชือกที่พาดบนสะพานเมื่อคืนที่ผ่านมา และเกี่ยวรถของชาวบ้านนั้น น่าจะเกิดจากการเล่นว่าวของชาวบ้านในละแวกดังกล่าว จนลมพัดเชือกว่าวไปพาดบนสะพานและเชือกขาดคนเล่นจึงปล่อยว่าวทิ้งไว้แล้วหนีกลับบ้าน อีกทั้งเชือกว่าวที่พบ ผู้ประสบเหตุก็ยืนยันว่าเป็นเชือกเส้นเดียวกัน
"การเล่นว่าว เล่นได้ แต่ต้องไม่มีอันตรายแก่บุคคลอื่น เพราะอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นถึงบาดเจ็บสาหัส พิการและเสียชีวิตได้ และหากเกิดเหตุมีคนเจ็บหรือเสียชีวิต คนที่เล่นว่าวก็จะถูกดำเนินคดีอาญา จึงขอเตือนประชาชนที่นิยมเล่นว่าว ให้ไปเล่นในที่ปลอดภัย อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนต้องสืบสวนให้รู้ตัวคนที่เล่นว่าวในคืนที่ผ่านมา เพื่อนำตัวมาว่ากล่าวตักเตือน ห้ามเล่นว่าวในเวลากลางคืนเด็ด ส่วนว่าวจุฬาและเชือกที่พบนั้น นำไปเก็บในห้องขังของสภ.พล ห้ามนำออกมาเด็ดขาด"