ศบค. จับตาคนไทยในพม่าลักลอบเข้าปท. วอนทำอย่างถูกกฎหมาย กักตัว ช่วยป้องกันแพร่เชื้อ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยว่าพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 35 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 25 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 17 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 8 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) 10 ราย ตุรกี 1 ราย กานา 2 ราย เคนยา 1 ราย ไนจีเรีย 2 ราย และเมียนมา 4 ส่วนผู้ป่วยมีการรักษาหายเพิ่ม 63 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไทยวันนี้ ติดเชื้อในประเทศในพื้นที่เสี่ยง 17 ราย มากสุดที่ จ.สมุทรสาคร 9 ราย กรุงเทพมหานคร 3 ราย ปทุมธานี 3 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย การคัดกรองค้นหาเชิงรุกในชุมชน 8 ราย มากสุด ปทุมธานี 5 ราย สมุทรสาคร 3 ราย แต่ที่ต้องจับตา คือ ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบว่ายังมีคนไทยลักลอบเดินทางจากเมียนมา เข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ จำนวน 4 คน ทั้งหมดเป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 23-30 ปี แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปสกัดไว้และนำตัวไปไว้ในสถานกักกันในพื้นที่ ตรวจพบภายหลังว่าติดเชื้อทั้ง 4 คน เป็นผู้ติดเชื้อแบบมีอาการ 1 คน และไม่มีอาการ 3 คน “คนไทยในเมียนมาไม่จำเป็นต้องลักลอบเข้ามา หากต้องการกลับประเทศไทย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ามาอย่างถูกกฎหมายและเข้ากักตัวในสถานกักกันตามขั้นตอน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค”โฆษก ศบค. กล่าว