หลังจากรัฐบาลกำหนดให้จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่ที่ใช้วิธีควบคุมในรูปแบบการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยกำหนดให้แรงงานอยู่เฉพาะในโรงงานและที่พักอาศัย (Bubble and Sealed Factory-Accommodation Quarantine) ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ล่าสุด นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน ร่วมแพ็คถุงยังชีพ 5,000 ชุด เพื่อส่งมอบให้แก่ชาวสมุทรสาคร ซึ่งการมอบถุงยังชีพในครั้งนี้ นับเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
รวมถึง ปตท. ได้ร่วมมอบเงินสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) หรือ ChulaCoV19 vaccine จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ให้แก่ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และศาสตราจารย์ นายแพทย์เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะ แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนดังกล่าว และสามารถนำมาใช้บรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศได้โดยเร็ว
นายอรรถพล กล่าวว่า “การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาของคนไทย อีกทั้งเพื่อประโยชน์แก่คนในประเทศ ให้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้เร็ววัน ช่วยบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน อีกทั้งส่งเสริมให้ประเทศมีความพร้อมรับมือในอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข และทาง ปตท. มุ่งหวังให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และระบบสาธารณสุขที่มั่นคง โดยเราจะเป็นแกนประสานความร่วมมือ เพื่อบูรณาการความเชี่ยวชาญของภาคีทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ”
แต่ถึงอย่างไรก็ตามโควิด-19 ระลอกใหม่นั้น พบการแพร่กระจายต่อเนื่องไปในหลายจังหวัด และผู้เสี่ยงเชื้อแต่ละคนจะมีอาการไม่เหมือนกัน มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการจนถึงขั้นแสดงอาการ โดยส่วนมากจะมีอาการ เช่น มีไข้ ไอแห้ง เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่รับรส เป็นต้น ใครไม่แน่ใจว่าตัวเองติดหรือยัง สามารถเช็คด้วยตัวเองง่าย ๆ แค่ 3 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : รู้สึกตัวร้อนไหม? หากรู้สึกมีไข้อุณหภูมิ 37.5 องศา ขึ้นไป แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นหรือไม่ ให้กักตัวและสังเกตอาการ 14 วัน
ขั้นตอนที่ 2 : มีอาการหรือไม่? มีเฉพาะบางอาการก็ได้ มีไข้ติดต่อกัน 48 ชั่วโมง ปวดเนื้อปวดตัว เจ็บคอ ไอ จามหายใจยาก ปวดหัว ไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
ขั้นตอนที่ 3 : ก่อนกักตัวไปไหนมาบ้าง? ที่ผ่านมาก่อนแสดงอาการ เราเดินทางไปในสถานที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ควบคุมตามประกาศ หรือ ไปในสถานที่มีคนพลุกพล่าน หรือไม่ ถ้าหากตรวจสอบแล้วว่า
เข้าข่ายทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว จะถือว่า “จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง “ ในบางรายอาจไม่มีการแสดงอาการใดๆ เลย แต่หากได้ไปอยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวและรีบไปตรวจกับทางโรงพยาบาลอย่างละเอียด
ทันที สามารถเช็คพื้นที่เสี่ยงได้ที่ https://covid19.ddc.moph.go.th/ และสามารถตรวจสอบรายชื่อ รพ. ได้ที่ https://bit.ly/3hQRwsr
ควรหมั่นดูแลและสังเกตตัวเองอยู่บ่อยๆ หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการแพร่ระบาด หากมีคนใดคนหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือแล้ว สามารถส่งผลกระทบออกไปได้ในวงกว้างอย่างแน่นอน เพราะเชื้อโควิด-19 นั้นแพร่ระบาดได้ไวมากกว่าที่คิด นอกจากนี้ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมด้วยช่วยกันในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้กับคนไทยทุกคน สามารถผ่านสถานการณ์วิกฤติครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด
แต่ถึงอย่างไรก็ตามโควิด-19 ระลอกใหม่นั้น พบการแพร่กระจายต่อเนื่องไปในหลายจังหวัด และผู้เสี่ยงเชื้อแต่ละคนจะมีอาการไม่เหมือนกัน มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการจนถึงขั้นแสดงอาการ โดยส่วนมากจะมีอาการ เช่น มีไข้ ไอแห้ง เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่รับรส เป็นต้น ใครไม่แน่ใจว่าตัวเองติดหรือยัง สามารถเช็คด้วยตัวเองง่าย ๆ แค่ 3 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : รู้สึกตัวร้อนไหม? หากรู้สึกมีไข้อุณหภูมิ 37.5 องศา ขึ้นไป แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นหรือไม่ ให้กักตัวและสังเกตอาการ 14 วัน
ขั้นตอนที่ 2 : มีอาการหรือไม่? มีเฉพาะบางอาการก็ได้ มีไข้ติดต่อกัน 48 ชั่วโมง ปวดเนื้อปวดตัว เจ็บคอ ไอ จามหายใจยาก ปวดหัว ไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
ขั้นตอนที่ 3 : ก่อนกักตัวไปไหนมาบ้าง? ที่ผ่านมาก่อนแสดงอาการ เราเดินทางไปในสถานที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ควบคุมตามประกาศ หรือ ไปในสถานที่มีคนพลุกพล่าน หรือไม่ ถ้าหากตรวจสอบแล้วว่า
เข้าข่ายทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว จะถือว่า “จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง “ ในบางรายอาจไม่มีการแสดงอาการใดๆ เลย แต่หากได้ไปอยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวและรีบไปตรวจกับทางโรงพยาบาลอย่างละเอียด
ทันที สามารถเช็คพื้นที่เสี่ยงได้ที่ https://covid19.ddc.moph.go.th/ และสามารถตรวจสอบรายชื่อ รพ. ได้ที่ https://bit.ly/3hQRwsr
ควรหมั่นดูแลและสังเกตตัวเองอยู่บ่อยๆ หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการแพร่ระบาด หากมีคนใดคนหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือแล้ว สามารถส่งผลกระทบออกไปได้ในวงกว้างอย่างแน่นอน เพราะเชื้อโควิด-19 นั้นแพร่ระบาดได้ไวมากกว่าที่คิด นอกจากนี้ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมด้วยช่วยกันในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้กับคนไทยทุกคน สามารถผ่านสถานการณ์วิกฤติครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด