ตำรวจขอนแก่นรวบพลเมืองดีขโมยมือถือน้อง "น้ำมนต์" ขณะทำทีเข้า่ไปช่วยเหลือขณะเกิดอุบัติเหตุ สารภาพสิ้นสุ่มหารหัสจนเจอก่อนกดเงินน้องไปจนเกลี้ยง และเอามือถือไปทิ้งที่บึงศรีฐาน จากกรณี หรือ น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ อายุ 22 ปี หรือน้องนำมนต์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรองนางสาวไทย ปี 2562 ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลัก ชนต้นไม้ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตพร้อมเพื่อนอีก 2 ราย เหตุเกิดบริเวณใกล้กับคณะนิติศาสตร์ มข. และตรงข้ามกับโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบทรัพย์สินผู้เสียชีวิตแก่ครอบครัวน้องน้ำมนต์ กลับพบว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น XR ของน้องน้ำมนต์หายไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 มี.ค.2564 พ.ต.อ.ธนวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบทรัพย์สินให้กับครอบครัวของน้องน้ำมนต์ 1 ในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งครอบครัวได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าโทรศัพท์มือถือน้องน้ำมนต์หายไป และครอบครัวจึงพยายามสืบหาซึ่งคิดว่าน่าจะมีญาติ หรือเพื่อนหรือคนใกล้ชิดเก็บไว้ แต่จากการสืบค้นตำแหน่งที่ตั้ง หรือโลเคชั่น ของโทรศัพท์มือถือ หลังเกิดเหตุกลับพบว่าอยู่ในพื้นที่ ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น และพบบัญชีธนาคารของน้องน้ำมนต์ มีการโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นไปจำนวนเงิน 13,569 บาทไปใช้ซื้อทองคำน้ำหนัก 50 สต. ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น " ครอบครัว จึงได้ประสานงานมายังชุดสืบสวน จ.ขอนแก่น เพื่อสืบหาผู้ลงมือก่อเหตุนำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไปนั้นคือใคร โดยแกะรอยคนร้ายรายนี้เรื่อมา จนกระทั่งมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า นายนัธทวัฒน์ ปุญญ์พัฒนกิจถาวร อายุ 44 ปี ชาว ต.บีงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเข้าไปช่วยเหลือในช่วงที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการคุมตัวมามาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การบ่ายเบี่ยง ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาเค้นสอบ จนกระทั่งสารภาพว่าเป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือน้องน้ำมนต์และเพื่อน ๆ ที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำจริงและเป็นคนแรกที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุ โดยเห็นโทรศัพท์มือถือตกอยู่จึงเก็บไว้และพยายามสุ่มรหัสโทรศัพท์โดยใช้เลขจากข้อมูลส่วนตัวจนกระทั่งสามารถเข้าไปดูข้อมูลในโทรศัพท์ได้" พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวจ่ออีกว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาสามารถเข้าระบบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตได้จึงเข้าระบบบัญชีธนาคารก็สามารถเข้าไปจึงใช้ในการ ซื้อทองคำรูปพรรณที่ร้านทองผ่านแอพพลิเคชั่นโอนเงิน ต่อจากนั้นนำทองคำที่ได้ไปจำนำที่ร้านทองอีกแห่งหนึ่งก่อนที่นำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนโทรศัพท์มือถือได้นำไปทิ้งที่บึงศรีฐานภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมรณ 3 กม.เพื่อป้องกันไม่ให้ตามถึงตัว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงประสานงานไปยังชุดประดาเพื่อทำการค้นหาของกลาง จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์ของน้องน้ำมนต์จมอยู่กลางบึงศรีฐาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาเอาผิดกับผู้ต้องหาังกล่าว ประกอบด้วย ลักทรัพย์ในสถานที่เกิดเหตุหรือลักของโจร , ลักทรัพย์เงินสดจากบัญชีผู้อื่นละนำบัตรอิเลคทรอนิกส์ของผู้อื่นไปใช้เกิดความเสียหาย ก่อนที่จะควบคุมตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองขอนแ่กน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป