ลูกเขยยอมรับผิดหลังใช้กรรไกรทำร้ายแม่ยายภายในบ้าน สารภาพทำลงไปเพราะเมาและน้อยใจที่บ้านล็อคเข้าบ้านไม่ได้ ขอกลับตัวกลับใจกลับไปอยู่ใต้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ขณะที่ภรรยาและแม่ยายยืนยันไม่ต้องการให้อยู่ด้วยกันและทุกอย่างที่ผู้ต้องหาพูดโกหกทั้งนั้น เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 มี.ค.2564 ที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ พร้อมด้วยร.ต.อ.ฉัตรพงศ์ พละเดช รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ควบคุมตัวนายศักดิ์ดา แก่นจันทร์ อายุ 25 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาที่เมาสุราทำร้ายร่างกายแม่ยายและภรรยามาสอบสวน เหตุเกิดเมือกลางดึกที่ผ่านมาภายในบ้านพักเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่เกิดขึ้น นายศักดิ์ดา ให้การว่า ทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทแห่งหนึ่งในอ.บ้านไผ่ โดยทำหน้าที่ขับรถบรรทุกส่งสินค้า ได้เงินมาก็จะให้ภรรยาใช้สัปดาห์ละ1,000 บาท ก่อนเกิดเหตุ (1 มี.ค.) เป็นช่วงหลังเลิกงาน ได้รับภรรยาและลูกออกไปกินหมูย่างที่ร้านอาหาร โดยสั่งเบียร์มาดื่มด้วย 3 ขวด แต่ภรรยาไม่ดื่ม และยังเดินหนีกลับบ้านมาก่อน จากนั้นตัวเองก็นั่งดื่มคนเดียวจนหมด 3 ขวด ขับจักรยานยนต์กลับมาถึงบ้าน พบว่าประตูทางเข้าบ้านล๊อคกุญแจ ก็เกิดความน้อยใจ จอดรถจักรยานยนต์ไว้แล้ว ปีนรั้วเข้าไปเอากุญแจในบ้านเปิดประตูเอารถเข้ามาเก็บในบ้าน จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเอาใส่ในรถยนต์ เพื่อจะกลับไปหาพ่อแม่ที่จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน จึงเข้าไปขอยืมเงินกับภรรยา แต่ภรรยาไม่ให้ จึงโมโห และทะเลาะกัน แม่ยาย จึงหยิบกรรไกรมาขู่และจะทำร้าย จนเกิดการยื้อแย่งกรรไกรกัน เมื่อแย่งได้จึงโยนทิ้ง จากนั้นภรรยาก็จะเอาไม้เบสบอลมาตี โชคดีที่แย่งมาได้ก่อน จากนั้นก็รู้ว่าภรรยาแจ้งตำรวจมาจับ จึงรีบวิ่งหนีออกจากบ้าน และถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ " เมื่อถูกจับกุมแล้วก็ยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ถูกต้อง แม่ยายเสียใจและเจ็บตัว รู้ว่าทำผิดก็ยอมรับผิด หากถูกศาลตัดสินให้ติดคุกก็ติดคุกก่อน เมื่อพ้นโทษออกมาก็จะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่จ.สุราษฎร์ธานี เพราะภรรยากับแม่ยายคงไม่ให้อยู่ที่บ้านด้วยแล้ว และจะปรับปรุงตัวเอง ทำงานหาเงินส่งเสียลูกสาวที่อยู่กับภรรยา" ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เชิญนางสังวาล อนุเดชากุล อายุ 57 ปีแม่ยาย และ น.ส.ปิยธิดา อนุเดชากุล อายุ 22 ปี ภรรยาของผู้ต้องหามาสอบสวนด้วย โดยให้ทั้งสองฝ่ายนั่งกันอยู่คนละฟากโต๊ะโดยนางสังวาล กล่าวว่า สิ่งที่ลูกเขยกระทำนั้นไม่ให้อภัย และไม่ให้กลับมาอยู่ในบ้านอีกเด็ดขาด ขอให้ศาลตัดสินจำคุก ออกจากคุกมาก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวอีก ด้าน น.ส.ปิยธิดา อนุเดชากุล ภรรยาของผู้ต้องหา กล่าวว่า ขอให้ทุกอย่างจบสิ้นกันเท่านี้ ลูกสาวจะเลี้ยงเอง หากติดคุก ออกจากคุกก็ไม่ต้องมาเหยียบที่บ้านอีก ขอให้กลับไปอยู่ที่จ.สุราษฎร์ธานี หรือที่ใดก็ตาม แต่ต้องไม่เข้าไปเหยียบและยุ่งกับตนและมารดาตนอีก และสิ่งที่กระทำก็ขอให้รับโทษตามกฎหมาย ขณะที่ พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่า มูลเหตุทั้งหมดเกิดจากการที่ผู้ต้องหาดื่มแอลกอฮอร์จนเมาขาดสติ ทำทุกอย่างลงไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สึกตัวก็จำสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นไม่ได้ แต่ทั้งหมดคือความรุนแรงในครอบครัวและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะข้าวของเครื่องใช้ในบ้านพังเสียหาย แม่ยายและภรรยาก็ได้รับบาดเจ็บ จึงได้แจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์และข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยจะควบคุมตัวนายศักดาฝากขังที่ศาลจังหวัดพลในวันพรุ่งนี้ (3มี.ค.)ตามขั้นตอนต่อไป