แต่ยังคงควบคุมได้ดี มีการเข้มข้นในการควบคุมความเสี่ยง และมีมาตรการจัดทำใบรับรองการปลอดการติดเชื้อ หรือบัตรรับรองปลอดโควิด ( passport covid19 ) ก่อนเข้าไปทำงานในพื้นที่ พ่อค้า แม่ค้า และลูกจ้าง ที่จะเข้าไปในตลาดต้องผ่านการตรวจหาเชื้อ ปลอดเชื้อ 100 % ย้ำเนื้อหมูรับประทานได้แต่ต้องปรุงสุก ส่วนประเด็นปกปิดข้อมูลยังต้องสอบสวนโรคอย่างละเอียดอีกครั้ง 1 มี.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 จ.ปทุมธานี ซึ่งผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกพบผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์โรงชำแหละเนื้อสุกร ว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 88 ราย ซึ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว 53 ราย ส่วนอีก 35 ราย ไม่พบเชื้อ คิดเป็น 60% ทั้งนี้สาเหตุที่มีการติดเชื้อจำนวนมากเนื่องจากมีกิจกรรมหรือทำงานใกล้ชิดกัน และพบว่าชายมากกว่าหญิง อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนโรคทำให้สามารถระบุวันเริ่มป่วย ย้อนกลับไป คือวันที่ 26 กพ. 64 โดยมีรายงานพบผู้ติดเชื้อจำนวน 34 ราย เรียกได้ว่าสามารถทำการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับในพื้นที่มีมาตรการที่เข้มข้นที่จะควบคุมและป้องกัน นพ.เฉวตสรร กล่าวอึกว่า ทั้งนี้ภาพรวมการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ของ จ.ปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 63 - 28 ก.พ.64 พบผู้ติดเชื้อ 664 ราย อายุ 20-60 ปี 80.5 4% อายุ 60 ปีขึ้นไป 7.59 % สัญชาติไทย 57.7 9% เมียนมา 37.58% ลาว 1.9 1% กัมพูชา 0.64% และอังกฤษ 0.16% อย่างไรก็ตามแนวโน้มการระบาดในจ.ปทุมธานี เป็นการระบาดในชุมชนตลาดพรพัฒน์และตลาดสุชาติมีแนวโน้มลดลง โดยในพื้นที่มีมาตรการเข้มข้นในการควบคุมความเสี่ยง และมีมาตรการจัดทำใบรับรองการปลอดการติดเชื้อ หรือบัตรรับรองปลอดโควิด ( passport covid19 ) ก่อนเข้าไปทำงานในพื้นที่ พ่อค้า แม่ค้า และลูกจ้าง ที่จะเข้าไปในตลาดต้องผ่านการตรวจหาเชื้อ ปลอดเชื้อ 100 % เพื่อทำให้การค้นหาเชิงรุกครอบคลุม ไม่ให้มีการหลุดรั่ว โดยมาตรการดังกล่าวทำให้พบกลุ่มก้อนในผู้ค้าหมูและโรงงานชำแหละเนื้อหมู เบื้องต้นได้มีการสั่งปิดโรงงานแห่งนี้เพื่อทำความสะอาด สำหรับข้อห่วงใยเรื่องการรับประทานเนื้อหมูนั้น ยืนยันว่ายังคงรับประทานได้แต่ต้องปรุงสุกใหม่ ส่วนที่มีข่าวโรงงานมีการปกปิดข้อมูลนั้นคงต้องรอผลสอบสวนโรคอย่างละเอียดอีกครั้ง