เกษตรกรขอนแก่น พลิกนาข้าวเป็นนาบัวสวยงาม สร้างรายได้ได้ทุกวัน โควิดกะบ่ยัน ขายผ่านออนไลน์ ส่งตรงถึงบ้านแบบเดลิเวอรี่ พร้อมต่อยอดเป็นบัวประดับและสวนขวด เจาะตลาด บ้านและคอนโด สวย เก๋ มีสไตล์ ในราคาไม่แพง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ.ขุมดิน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มีเกษตรกรต้นแบบของชุมชนที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสและจัดสรรพื้นที่ให้เกิดการใช้งานได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะกับการเปลี่ยนนาข้าวเป็นนาบัว ที่เจาะกลุ่มตลาดบัวสวยงาม ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรรายนี้ได้ทุกวันแตกต่างจากการทำนาข้าวที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น
นายประภัย เมืองคำ เกษตรกร กล่าวว่า ครอบครัวมีพื้นที่อยู่รวมกว่า 20 ไร่ ซึ่งถูกนำทำนาทั้งหมด จึงก่อให้เกิดปัญหาอย่างมากกับผลผลิตในช่วงที่ประสบกับสถานการณ์ภัยแล้ง ดังนั้นจึงสมัครเข้าร่วมโครงการด้วยการพัฒนาพื้นที่จำนวน 3 ไร่จัดทำเป็นพื้นที่โคก หนอง นา ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด ทั้งยังคงมีการปรับพื้นที่บางส่วนในการทำนาบัวอย่างเป็นสัดส่วนแยกแต่ละชนิดออกเป็น 3 บ่อ บ่อแรกเป็นนาบัวสาย ที่ไว้ใช้ในการรับประทานอาหาร บ่อที่ 2 คือกลุ่มบัวบูชา ซึ่งเก็บจำหน่ายทุกวันพระ และตามยอดการสั่งซื้อของพ่อค้า-แม่ค้าในพื้นที่ และสุดท้ายคือบ่อกลุ่มบัวสวยงาม ที่สามารถตัดหน่อและดอกขายได้ทุกวัน โดยราคาจำหน่ายดอกบัวไหว้พระ จะอยู่ที่ราคาดอกละ 1 บาท ขณะที่บัวสวยงาม สายพันธ์ต่างๆ ทั้งบัวจักรพรรดิ,บัวทับทิมสยาม,บัวฉลองขวัญและอีกกว่า 10 สายพันธุ์ราคาจำหน่ายจะอยู่ที่หน่อละ 100 บาทขึ้นไป
“ ยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบกับครอบครัวอย่างมาก โดยเฉพาะนาบัว ที่ไม่สามารถนำไปจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆได้ เนื่องจากงานต่างๆถูกงดจัด งานเกษตรในทุกพื้นที่ถูกยกเลิกงานไปทั้งหมด ครอบครัวจึงได้ปรับวิธีการขายมาในรูปแบบออนไลน์ มีการสร้างเพจ สร้างแบรนด์ของตนเอง และให้บริการส่งจำหน่ายแบบเดลิเวอรี่แทน ซึ่งยอมรับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาในภาวะเร่งด่วนจากการแนะนำของสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.มัญจาคีรี และ เกษตร อ.มัญจาคีรี เพื่อที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสและกระจายผลผลิตของครอบครัวส่งจำหน่ายได้ในทุกพื้นที่และทุกวัน ทำให้วันนี้การสั่งซื้อผ่านเพจและโซเชียลมีเดียนั้นมียอดของการสั่งซื้อทุกวันซึ่งทำให้ครอบครัวมีรายได้เกิดขึ้นทุกวันแม้จะไม่มากแต่ก็พอที่จะอยู่ได้อย่างพอเพียงเพราะพื้นที่ที่มีอยู่นั้นมีการบริหารจัดการแบบโคกหนอง นา โมเดล ในพื้นที่ 3 ไร่อย่างเต็มพื้นที่”
นายประภัย กล่าวต่ออีกว่า การทำนาบัวแม้จะใช้พื้นที่ไม่มาก และกรรมวิธีในการดูแล ไม่ซับซ้อน แต่บัวเป็นพืชทีต้องอยู่กลางแดด และเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน แต่ไม่ถึงกับอ่อนแอ ถ้าเราเข้าใจในวิธีดูแลรักษา การเอาใจใส่ การให้ปุ๋ยที่ถูกต้องและตรงตามรอบวัน โดยใช้วิธีแบบธรรมชาติ คู่ขนานกับวิชาการ ก็จะทำให้นาบัวที่เลี้ยงไว้นั้นออกผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และสามารถที่จะตัดดอกหรือหน่อไปขายได้ในราคาที่เหมาะสมได้ในทุกวันอีกด้วย โดยเฉพาะกับกลุ่มบัวสวยงาม ที่กลุ่มลูกค้าชัดเจนทั้งในส่วนชองสถานที่ราชการ บ้านเรือน หรือการนำไปประดับในพื้นที่ต่างๆ ขณะเดียวกันจากวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นครอบครัวจึงได้นำบัวสวยงามมาคิดค้นวิธีการสตาฟหรือการแปรสภาพบัวสด ให้กลายเป็นบัวประดับในลักษณะของของตกแต่งบ้านหรือสวนขวด ซึ่งขณะนี้เริ่มทำออกมาแล้ว2 รูปแบบเจาะกลุ่มคอนโด และบ้าน ซึ่งก็ได้รับความสนใจและการตอบรับจากลูกค้าที่ชื่นชอบบัวสวยงามและบัวมงคลอย่ามากอีกด้วย อย่างไรก็ตามจากการเข้าร่วมโครงการโคก หนอ นา โมเดล ที่วันนี้เตรียมเข้าสู่การขุดสระน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่ด้านหลังของแปลงนาบัว เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและ รับการอบรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆอย่างครบศาสตร์ทำให้วันนี้ นาบัวจึงกลายเป็นรายได้หลักที่สำคัญของครอบครัวไปแล้ว และเตรียมที่จัดตั้งเป็นพื้นที่เรียนรู้ชุมชนให้กับคนในหมู่บ้านได้มาศึกษาและร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้จนนำไปสู่การดำเนินชีวิตได้อย่างยั่งยืนบนวิถีพอเพียงต่อไป