วันหยุดยาวชาวขอนแก่นแห่เลือกซื้อต้นไม้ไปตกแต่งบ้านเนืองแน่น ขณะที่ราคาจำหน่ายไม่ธรรมดา ไม้หายากราคาพุ่งสูง พ่อค้าเผยช่วงโควิดคนอยู่บ้านต้นไม้ขายดีมาก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกซื้อพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับในช่วงวันหยุดยาวที่ประชาชนชาวขอนแก่นส่วนใหญ่ต่างพากันออกมาเลือกซื้อพันธุ์ไม้นานาชนิดเพื่อนำกลับไปประดับตกแต่งบ้านเรือนของตนเอง รวมทั้งประดับตกแต่งอาคารสำนักงานหรือแม้กระทั่งซื้อไปถวายวัดทำบุญ ซึ่งพบว่าร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับส่วนใหญ่นั้นได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบต้นไม้และพันธุ์ไม้ที่ทยอยออกมาจับจ่ายเลือกซื้อกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ร้านคุ้มไม้งาม ซึ่งตั้งอยู่ริมบึงหนอโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่มีประชาชนทยอยกันมาสอบถามพันธุ์ไม้ เลือกซื้อและเลือกชมต้นไม้ที่ตนเองชื่นชอบกันอย่างคึกคัก
นายวีรพงษ์ สุวรรณภา เจ้าของร้านฯ บอกว่า กลุ่มไม้ใบในขณะนี้เป็นน่าสนใจของลูกค้าอย่างมาก เพราะรูปแบบของไม้ดอก ไม้ใบ มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน อย่างไม้ดอกของไทยมีข้อจำกัดหลายด้านเนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การปลูกให้ได้ผลสวยงามจึงต้องปลูกไม้พื้นถิ่น จะอยู่ได้นาน แต่หากเป็นไม้ดอกเมืองหนาวจะบานสวยงามเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น ตกแต่งบ้าน สวนได้เฉพาะฤดูหนาว เท่านั้น
"กลุ่มตลาดไม้ใบและไม้ฟอกอากาศ เป็นเรื่องกระแสนิยม ซึ่งถือว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ จึงทำให้ตลาดไม้ใบเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น มีการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ บางรายที่ซื้อแล้วชื่นชอบก็จะลงรายละเอียดศึกษาเรื่องสายพันธุ์ การเพาะเลี้ยง ต้องการสายพันธุ์ที่หายากขึ้น ขณะที่บางรายอาศัยวิกฤติโควิด ผันตัวจากนักสะสมมาเป็นผู้ขาย ยิ่งทำให้ร้านต้นไม้คึกคักมากขึ้น ด้วยเช่นกัน"
นายวีรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ราคาจำหน่ายไม้ใบบางชนิด ยกตัวอย่างเช่นมอนสเตอร่าด่างตั้งไว้ที่ 300 บาท แต่หลังจากที่มีกระแสความนิยมปลูกไม้ใบทำให้ปัจจุบันราคาขึ้นสูงกว่า 10,000 -20,000 บาท ซึ่งทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น และโดยส่วนตัวมองว่าไม้ใบยังไปได้ไกล เพราะตลาด ต่างประเทศ มีความต้องการสูง โดยเฉพาะไม้ที่อยู่ในป่าเขตร้อนชื้น ชนิดที่หายากเริ่มต้นราคาที่ 10,000 -1,000,000 บาท เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงและเพาะยาก ทำให้ตลาดไม้ใบยังคงโตต่อเนื่องคาดว่าอีก 6-7 ปี อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดไม้ใบ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ฟิโลเดรนดอน หรือดอกหน้าวัว โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีกำลังซื้อ และเล่นอินเตอร์เนตได้ และแม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ก็ขึ้นกับความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้า ทำให้ทางร้านนอกจากจำหน่ายหน้าร้านแล้วยังคงมีการจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์แบบจัดส่งถึงบ้านอีกด้วย
นายวีรพงษ์ สุวรรณภา เจ้าของร้านฯ บอกว่า กลุ่มไม้ใบในขณะนี้เป็นน่าสนใจของลูกค้าอย่างมาก เพราะรูปแบบของไม้ดอก ไม้ใบ มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน อย่างไม้ดอกของไทยมีข้อจำกัดหลายด้านเนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การปลูกให้ได้ผลสวยงามจึงต้องปลูกไม้พื้นถิ่น จะอยู่ได้นาน แต่หากเป็นไม้ดอกเมืองหนาวจะบานสวยงามเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น ตกแต่งบ้าน สวนได้เฉพาะฤดูหนาว เท่านั้น
"กลุ่มตลาดไม้ใบและไม้ฟอกอากาศ เป็นเรื่องกระแสนิยม ซึ่งถือว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ จึงทำให้ตลาดไม้ใบเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น มีการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ บางรายที่ซื้อแล้วชื่นชอบก็จะลงรายละเอียดศึกษาเรื่องสายพันธุ์ การเพาะเลี้ยง ต้องการสายพันธุ์ที่หายากขึ้น ขณะที่บางรายอาศัยวิกฤติโควิด ผันตัวจากนักสะสมมาเป็นผู้ขาย ยิ่งทำให้ร้านต้นไม้คึกคักมากขึ้น ด้วยเช่นกัน"
นายวีรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ราคาจำหน่ายไม้ใบบางชนิด ยกตัวอย่างเช่นมอนสเตอร่าด่างตั้งไว้ที่ 300 บาท แต่หลังจากที่มีกระแสความนิยมปลูกไม้ใบทำให้ปัจจุบันราคาขึ้นสูงกว่า 10,000 -20,000 บาท ซึ่งทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น และโดยส่วนตัวมองว่าไม้ใบยังไปได้ไกล เพราะตลาด ต่างประเทศ มีความต้องการสูง โดยเฉพาะไม้ที่อยู่ในป่าเขตร้อนชื้น ชนิดที่หายากเริ่มต้นราคาที่ 10,000 -1,000,000 บาท เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงและเพาะยาก ทำให้ตลาดไม้ใบยังคงโตต่อเนื่องคาดว่าอีก 6-7 ปี อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดไม้ใบ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ฟิโลเดรนดอน หรือดอกหน้าวัว โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีกำลังซื้อ และเล่นอินเตอร์เนตได้ และแม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ก็ขึ้นกับความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้า ทำให้ทางร้านนอกจากจำหน่ายหน้าร้านแล้วยังคงมีการจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์แบบจัดส่งถึงบ้านอีกด้วย