เมื่อวันที่ 26 ก.พ.64 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมมอบเงินรางวัลแก่ผู้แจ้งการพบเห็นเต่ามะเฟืองวางไข่ ประจำปี 2564 โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนคณะผู้บริหารระดับสูงในสังกัด ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลจังหวัดพังงา และประชาชนในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ ณ ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง หาดบางขวัญ อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง จ. พังงา ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตนจะได้รับรายงานการพบการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องสะท้อนถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และความสำเร็จในการทำงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก และได้มีโอกาสนำทีมผู้บริหารมาตรวจเยี่ยมศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง จ.พังงา ซึ่งศูนย์ฯ แห่งนี้ จะต้องทำงานประสานร่วมกับหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น นักวิชาการ ทีมสัตวแพทย์ หน่วยงานภายในจังหวัด และท่ี่สำคัญ คือ ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาหลายครั้งที่ตนได้รับรายงานการพบเต่ามะเฟือง ส่วนมากจะพบโดยพี่น้องประชาชนและแจ้งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบ้าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชบ้าง ทำให้เราปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญทันต่อเหตุการณ์ยิ่งขึ้น และในวันนี้ตนได้มีโอกาสนำทีมผู้บริหาร ทส. มาพบพี่น้องประชาชนผู้พบเห็นการวางไข่ของเต่าทะเลและแจ้งเบาะแสให้กับหน่วยงาน ทส. ซึ่งตนรู้สึกขอบคุณและชื่นชมพี่น้องประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด และในครั้งนี้ได้มอบรางวัลตอบแทนจากกองทุนอนุรักษ์เต่าทะเลและถิ่นอาศัยพังงา - ภูเก็ต ให้แก่ผู้แจ้งเบาะแส จนถึงวันนี้ ตนสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจเลยว่า “เต่ามะเฟืองเป็นสัตว์ที่จะขึ้นวางไข่ เมื่อสภาพแวดล้อมดีและพื้นที่ปลอดภัย เมื่อลูกเต่าฟักออกจากไข่จะมีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์และสามารถรอดปลอดภัยได้ เมื่อสัตว์ทะเลไว้ใจหมู่บ้านเรา จังหวัดเรา ประเทศเรา เราต้องยิ่งดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลของเราให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม สมบูรณ์กว่าเดิม” ในการนี้ ตนจะได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจำนวนครั้งการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลในช่วงฤดูการวางไข่จะเป็นเครื่องสะท้อนความสำเร็จของการทำงาน แต่สิ่งสำคัญ คือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต้องร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเช่นที่ผ่านมา เพื่อให้การทำงานสัมฤทธิ์ผลและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ติดตามสถานการณ์การวางไข่ของเต่ามะเฟืองมาโดยตลอด ซึ่งจากสถิติการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองในช่วงปี 2555-2560 ไม่พบการวางไข่ของเต่ามะเฟืองเลย หากเปรียบเทียบในฤดูการวางไข่ในแต่ละช่วงปี 2561 - 2562 พบ 3 รัง 2562 - 2563 พบเต่ามะเฟืองวางไข่สูงถึง 16 รัง และฤดูกาลวางไข่ 2563 - 2564 พบแล้ว 18 รัง จะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สำหรับพื้นที่พบการวางไข่ของเต่ามะเฟือง จากเดิมพบการวางไข่บริเวณหาดคึกคัก หาดท่าไทร ในจังหวัดพังงา ปัจจุบันพบการเพิ่มขึ้นในอีกหลายหาด เช่น หาดท้ายเหมือง หาดบ่อดาน เกาะคอเขา เกาะพระทอง
โดยเฉพาะที่หาดบางขวัญมีเต่ามะเฟืองวางไข่มากถึง 9 รัง และที่จังหวัดภูเก็ตก็พบการวางไข่ของเต่ามะเฟืองอีกหลังจากไม่พบมาเป็นเวลานาน เช่น ที่หาดไม้ขาว และหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเช่นหาดกะตะ และจากสถิติการเพิ่มขึ้นของจำนวนครั้งการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟือง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งยังดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ริเริ่มให้มีการเปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามผ่านเว็ปไซต์ของกรมฯ ลดการรบกวนของการฟักไข่ของลูกเต่า รวมถึงกั้นรั้วด้วยไม้ไผ่ความสูง 1.5x1.5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ตามธรรมชาติเข้าไปรบกวนภายในบริเวณฟักไข่ และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปใกล้มากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ตนจะได้สั่งการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน รวมถึง นักท่องเที่ยวในการติดตามเฝ้าระวัง และหากพบการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล ขอให้ประสานแจ้งสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ทันที เพื่อจะได้ดำเนินการดูแลและกำหนดมาตรการเฝ้าระวังที่เหมาะสม ต่อไป นายโสภณ ทองดี กล่าวในที่สุด