ททท.จัดคาราวานส่งเสริมการท่องเที่ยวอีสานที่ขอนแก่น เชื่อมหมอลำ-คาบาเร่ต์ กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวรับไตรมาส 2 ของปี "สมชาย" มั่นใจสถานการณ์โควิด ดีขึ้นคนกล้าออกมาจับจ่ายและเที่ยววิถีใหม่ไปได้ทุกวัน เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ก.พ. 2564 ที่ ร้านอาหารจ๊วด ริมถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมชาย ชมพูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. พร้อมด้วย นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผอ.ททท. สำนักงานขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับผู้ประกอบการการท่องเที่ยวซึ่งประกอบด้วยเจ้าของโรงแรม,ร้านอาหารและบริษัททัวร์ จากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ในกิจกรรมส่งเสริมการขายการ ท่องเที่ยวAmazing อีสานไตรมาส2 ตอน“หมอลำ&คาบาเร่ต์” ซึ่ง ารท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดกิจกรรมขึ้น ท่ามกลางความสนใจจากผู้ประกอบการในธุรกิจด้านการท่องเทีย่วจากทั้ง 2 ภูมิภาคเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง นายสมชาย ชมพูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวจัดกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่น เพื่อให้คนไทยได้ออกมาเที่ยวในประเทศไทย เที่ยววิถีใหม่สไตล์นิวนอร์มอล พื่อสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวยุคใหม่และกระตุ้นการขายภายในประเทศให้กลับมาคึกคัก โดยการ พบปะกันพูดคุยกันของกลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากทั้ง 2 ภูมิภาคในครั้งนี้เป็นการ เสนอขายสินค้าและเส้นทางการท่องเที่ยว ที่เน้นปในกลุมเป้าหมายของทั้ง 2 ภูมิภาคในราคาพิเศษ นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผอ.ททท. สำนักงานขอนแก่น กล่าวว่า แคมเปญที่ ททท.ภาคอีสาได้กำหนดไว้ในปีนี้นั้น มีความสดใหม่และน่าสนใจ เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่นิยมเที่ยวตัวปลิว ชิลอีสาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวแบบกลุ่ม สร้างการรับรู้มุมมองท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะกับการท่องเที่ยวในช่วงวันธรรมดา “ถ้าเราไม่จัดงานเราไม่มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ภาคธุรกิจหรือภาคท่องเที่ยวก็จะสะดุดเราจึงขอจัดงานนี้ขึ้นมา ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อให้ ผู้ซื้อจากภาคตะวันออกและผู้ซื้อจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มากกว่า 100 คนมาพบกับผู้ขาย จนนำมาสู๋การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคในสัดส่วนที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น" นายกิตติพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า กล่าวต่ออีกว่า จากจุดเริ่มต้นเล็กๆแบบนี้จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวแบบเชื่อโยงและในระดับพื้นที่ที่จะขยายผลไปสู่ภาพรวมด้านท่องเที่ยวในระดับประเทศ โดยคาดหวังว่าในปลายปี2565 การท่องเที่ยวจะเติบโตกลับขึ้นมาอย่างน้อยในสัดส่วนปริมาณที่มากกว่าในปีที่ผ่านมา ประมาณ 70% และโดยเฉพาะกับการท่องเที่ยในกลุ่มของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่จะเป็นกำลังหลักที่จะทำให้เกิดการหมุเวียนทางด้านเศรษฐกิจและมีรายได้จากนักท่องเที่ยวมาช่วยให้ประเทศไทยนั้นดีขึ้นตามลำดับ