วันที่ 26 ก.พ.ที่ บช.ภ.5 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผบ.ตร.(ปป),พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.อ.ธีรวัฒน์บุณยะวัฒน์เลขาธิการกอ.รมน.,พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผอ.ศอ.ปส.ชน., และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5, พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้มผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัยเจริญวงศ์รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลางผบก.ปส.3, พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์, พ.ต.อ.นักรบ หลิ่มวิรัตน์ และพ.ต.อ.ธีระ ทองระยับ รอง ผบก.ปส.3, พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ที่ปรึกษา สำนักงาน ป.ป.ส. และ นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติดและ นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภาค 5 แถลงข่าวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามแผนสยบไพรี 64/5 “ปฏิบัติการสยบโพยก๊วนบังลาย” ขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายเฮโรอีนและไอซ์ข้ามชาติ"
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด มุ่งเน้นเครือข่ายรายสำคัญและบุคคลที่หลบหนีหมายจับคดียาเสพติด อีกทั้งให้เน้นการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินรวมทั้งการขยายผลจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งให้การช่วยเหลือด้านการเงินโดยการฟอกเงินให้กับกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตลอดจนทำลายเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ
โดย คดีที่ 1“ปฏิบัติการยึดทรัพย์โพยก๊วนบังลาย” เมื่อวันที่5 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 6 คน พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 1,000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 400 กิโลกรัมจากการสอบสวนนายอนุวัฒน์ เถื่อนประดิษฐ์ หนึ่งในผู้ต้องหารับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของนายธวัชชัยอ้อมชมภู มีฉายาในวงการยาเสพติดว่า “บังลาย” ว่าจ้างให้ทำการลำเลียงยาเสพติดและนายอนุวัฒน์ฯ ผู้ต้องหายังรับว่าทำหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับเงินค่ายาเสพติดให้กับนายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย โดยลูกค้าที่ซื้อยาเสพติดจากนายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย จะโอนเงินค่ายาเสพติดเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยของนายอนุวัฒน์ฯผู้ต้องหา แล้วนายอนุวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาจะถอนเงินสดออก นำเงินสดไปฝากเข้าบัญชีคำสั่งของนายธวัชชัยฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายนายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย
จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มเครือข่ายนี้จะมีนายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย เป็นผู้สั่งการ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ โดยนายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย ทำหน้าที่เป็นนายทุนติดต่อซื้อยาเสพติดจากกลุ่มผู้ผลิตในประเทศเมียนมาร์ เมื่อซื้อยาเสพติดได้แล้วก็จะลำเลียงเข้าประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ แล้วส่งต่อให้กับทีมลำเลียงลงไปในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ โดยยาเสพติดประเภทยาบ้าและไอซ์จะทำการจำหน่ายภายในประเทศ ส่วนเฮโรอีนและไอซ์ที่มีจำนวนมากจะถูกส่งลงไปภาคใต้เพื่อต่อไปยังประเทศที่สาม ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับเงินค่ายาเสพติดจะใช้วิธีการให้บุคคลในเครือข่ายทำการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินค่ายาเสพติด โอนเงินเข้าบัญชีต่อกันเป็นทอด ๆ จนถึงบัญชีของบุคคลที่ทำหน้าที่ในการถอนเงินสดออกรวบรวมเงินแล้วลักลอบนำเงินสดขนข้ามชายแดนกลับไปสู่กลุ่มผู้ผลิตที่อยู่ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งกลุ่มบัญชีที่ใช้ถอนเงินสดจะดำเนินการโดยกลุ่มบุคคลที่ทำธุรกิจส่งออกสินค้าบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาร์ โดยบุคคลเหล่านี้จะนำเงินสดซุกซ่อนอำพรางไปกับสินค้าขนข้ามชายแดนไปให้กับเครือข่ายของนายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย ที่อยู่ในประเทศเมียนมาร์
เพื่อเป็นการปราบปรามกวาดล้าง และทำลายเครือข่ายของนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือบังลาย ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามแผนสยบไพรี 64/5 “ปฏิบัติการยึดทรัพย์โพยก๊วนบังลาย” ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ทำการจับกุมบุคคลที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดและบุคคลที่ดำเนินการฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดซึ่งถูกออกหมายจับแล้ว จำนวน20 เป้าหมาย มีจุดตรวจค้น จำนวน 27 จุดโดยปรากฏผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 14 ราย
1.น.ส.สิรินาฏ ขันเมือง ที่อยู่ 67 ม.5 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 152/2564
2. นายจิรภาส ลาภวัตสกุลที่อยู่ 67 ม.5 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 153/2564
3. น.ส.ลักษณพร ลาภวัตสกุลที่อยู่ 100 ม.9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่151/2564
4.นายมาโนช พุฒพันธ์ที่อยู่ ๑๙๐/๑ ม.๙ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่150/2564 (อายัดตัว)
5. น.ส.นวรัตน์ ตั้งวรรณเศรษฐีที่อยู่ 62 ม.7 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 156/2564
6. น.ส.สุข กองมูที่อยู่ 0/89 ม.8 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 158/2564
7. น.ส.รุจิรา จับใจนายที่อยู่ 181 ม.3 ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 159/2564
8. นางวงค์จันทร์ ท้าวสมวงศ์ที่อยู่ 39/1 ถ.นิเวศพิศาล ต.จองคำอ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอนผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 157/2564
9. นายเอกราช สีสังข์ที่อยู่ 186/1 ม.5 ต.หัวรออ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลกผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 164/2564
10. น.ส.กนกวรรณ โพธารามที่อยู่ 55/2 ม.5 ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก จ.อ่างทองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 161/2564
11. นายณัฐกรณ์ เหลืองดอกไม้ที่อยู่ 86 ม.8 ต.หนองบัวอ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 155/2564
12. นายวีระศักดิ์ จรูญศักดิ์ที่อยู่ 50/8 ถ.เวียนกะพัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรังผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 149/2564
13. นายเกรียงศักดิ์ พูลศิลป์ที่อยู่ 15 ม.4 ต.โพธิ์แทน อ.องครักษ์ จ.นครนายกผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 162/2564
14. นายสุนิชัย แสนจ๊า อายุ 31 ปีที่อยู่ 99 หมู่ 3 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตากผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 141/2564
พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าประมาณ 75,000,000 บาท,รถยนต์ 10 ล้อ จำวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,500,000 บาท,รถยนต์ 6 คัน มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท,ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 5 บาทมูลค่าประมาณ 150,000 บาท,เครื่องออกกำลังกาย 50 ชุด มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท,กระเป๋าแบรนเนม 4 ใบ มูลค่าประมาณ 200,000 บาท, เงินสด มูลค่าประมาณ 1,420,000 บาท,นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน มูลค่าประมาณ 35,000 บาท, เงินสดในบัญชีธนาคาร มูลค่าประมาณ 4,000,000 บาท สินค้าส่งออก มูลค่าประมาณ 10,000,000 บาท, เครื่องจักรโรงงานส่งออก มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท รวม 100,305,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่ 2 "ขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายเฮโรอีนและไอซ์ข้ามชาติ" ด้วยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563 บก.ปส.1 ได้ทำการจับกุมนายทนง อ่ำแตง ผู้ต้องหาพร้อมพวกรวม 4 คน พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์ จำนวน 500 ถุง น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม และเฮโรอีนจำนวน 1034 แท่ง น้ำหนักประมาณ 412 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง จว.ระยอง หลังการจับกุมทำการยึดอายัดทรัพย์สินเบื้องต้นหลังจับกุม เป็นที่ดิน,อาคารพาณิชย์,รถยนต์,จักรยานยนต์ และอาวุธปืน รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
พฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะลำเลียงยาเสพติดไปยังพื้นที่ภาคกลาง,ภาคตะวันออก แล้วส่งต่อไปยังประเทศที่สาม โดยจะนำยาเสพติดมาซุกซ่อนในพื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร เมื่อมีการตกลงซื้อขายยา เสพติดกันแล้วจะมีการส่งมอบยาเสพติดโดยวิธีการซุกซ่อนในรถกระบะตู้ทึบแล้วนำไปจอดไว้ในที่นัดหมาย จากนั้นจะมีผู้มาขับรถที่บรรทุกยาเสพติดไป และในการดำเนินการเรื่องเงินค่ายาเสพติดจะใช้วิธีการให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในต่างประเทศ เพื่อเป็นการอำพรางปิดบังเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มเครือข่าย และการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่าย
โดยการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้สั่งการซึ่งอาศัยในประเทศเพื่อนบ้าน มอบหมายให้ นายทรงศักดิ์ วัชรปรีชากูล เป็นตัวแทนในการเจรจาซื้อขายยาเสพติด จึงได้ทำการออกหมายจับนายทรงศักดิ์ฯในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ทำการขยายผลจนทราบว่านายทรงศักดิ์ฯ อาศัยอยู่ ต.ริมกก อ.เมือง จว.เชียงราย บก.ปส.1 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 2 เป้าหมายตรวจค้น 1 เป้าหมายจับ โดยได้กำหนดแผนปฏิบัติการเพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุมและยึดทรัพย์กลุ่มเครือข่ายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 2 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ และ จว.เชียงราย โดยจะทำการจับกุมบุคคลตามหมายจำนวน 1 ราย และยึดอายัดทรัพย์สิน เป็นบ้าน,ที่ดิน,ยานพาหนะ,เงินสดและทรัพย์สิน รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 5 ล้านบาท