เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 24 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่า มีหญิงสาวเมาสุราเดินหายออกจากบ้านไปตามถนนเลียบริมคลองชลประทานสายท่าม่วง-ท่ามะกา บ้านหนองตาบ่ง กฝหมู่ที่ 8 ต.ทุ่งทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี แล้วหายตัวไป สามีและลูกๆ พร้อมด้วยญาติ ช่วยกันออกติดตามค้นหา แต่ก็หาไม่พบ คาดว่าน่าจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ขอให้ทางมูลนิธิฯ ช่วยดำเนินการค้นหาให้ด้วย
หลังรับแจ้งจึงได้วิทยุสั่งการให้ลูกข่ายของมูลนิธิฯ ออกติดตามกระจายกำลังออกติดตามค้นหา แต่หาเท่าไหร่ ก็หาไม่พบ
เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และกระแสน้ำในคลองชลประทานไหลเชี่ยวมาก นายอดิศักดิ์ รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานฝ่ายกู้ชีพ-กู้ภัยมูลนิธิขุนรัตนาวุธจึงได้สั่งให้อาสาสมัครลูกข่ายของมูลนิธิฯ ยุติการค้นหา โดยจะดำเนินการติดตามค้นหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.พ.64 นายอดิศักดิ์ รุ่งโรจน์ธนกุล จึงได้สั่งการให้ นายณัฐิยะ โกมลลิขิตกุล หัวหน้าทีมนักประดาน้ำชุดสายธาร พร้อมอุปกรณ์การดำน้ำ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของมูลนิธิฯ เดินทางไปยังจุดที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดเกิดเหตุ ลงงมค้นหาร่างของหญิงสาวรายนี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะมึนเมาสุราแล้วฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำ โดยลงงมค้นหาไปตามเส้นทางคลองชลประทานทั้งทางบกและในน้ำ โดยใช้เวลานานกว่า 3-4 ชม.กระทั่งในที่สุดก็พบร่างของหญิงสาวที่หายไปนอนหงายเสียชีวิตอยู่ในคลองชลฯ ในสภาพที่ร่างกายใกล้ขึ้นอืดในพื้นที่หมู่ 5 เขต ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นระยะทางเกือบ 10 กม.
จากนั้นจึงช่วยกันนำศพขึ้นมาไว้บนบกและวิทยุแจ้งให้ ร.ต.อ.ณภูมิ สุขประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกาฯ ทราบเรื่อง และประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ให้มาร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ
เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์และตำรวจไม่พบว่า ตามร่างกายของผู้ตายมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนปากคำสามีผู้ตายและลูกๆ ซึ่งไม่ติดใจสงสัยในสาเหตุการตายทราบว่า นส.ต้อย ผู้ตายมีนิสัยเป็นคนคิดมาก และขี้ใจน้อย เวลามีปัญหาอะไรก็จะบ่นและต่อว่าสามีอยู่เป็นประจำ เคยคิดมากฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำคลองชลประทานมาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกสามีมาเห็นเข้าจึงสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน ครั้งที่ 2 และที่ 3 ลูกชายไปเห็นเข้าก็สามารถช่วยชีวิตผู้เป็นแม่ขึ้นมาได้ทัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ก่อนหน้าที่จะพบว่าหายตัวไป ขณะที่สามีผู้ตายไม่อยู่บ้าน ลูกชายเล่าว่าผู้เป็นแม่ได้โทรศัพท์ต่อว่าผู้เป็นพ่ออยู่นานจนแบตเตอรรี่โทรศัพท์หมด
ด้วยความคิดมากและน้อยใจผู้ตายจึงไปซื้อเหล้าที่ร้านค้ามากินและเดินหายออกจากบ้านไป เมื่อสามีผู้ตายกลับมาบ้านพบว่า ภรรยาหายไป จึงช่วยกันออกตามหา แต่หาไม่พบ จึงประสานไปที่มูลนิธิฯ ให้ช่วยออกติดตามค้นหา จนกระทั่งพบว่า ภรรยากลายเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายด้วยความมึนเมาสุราและน้อยใจสามีจึงกระโดดน้ำฆ่าตัวตายดังกล่าว จึงมอบศพให้สามีและญาติๆ นำศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป