ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กำชับทุกหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกหนุ่มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเองก่อนลุกลามไปวอดเสียหาย 6 หลังคาเรือน ขณะที่ญาติเผยสุดเสียใจสิ้นเนื้อประดาตัว คาดสาเหตุเสพยาจนหลอน ขณะที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์สอบปากคำผู้ก่อเหตุพร้อมแจ้งข้อหา
จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนที่บ้านห้วยแดง หมู่ที่ 6 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้มีบ้านเสียหายทั้งหมด 6 หลัง รวมถึงทรัพย์สินภายในบ้านเครื่องใช้ต่างๆ และยุ้งข้าวอีก 2 หลังเสียหายทั้งหมด โดยสาเหตุเกิดจากนายปนัสชัย ขัตติยะบุตร อายุ 38 ปี เป็นผู้จุดไฟเผาบ้านตัวเอง ก่อนจะลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการเสพยาเสพติดจนเกิดอาการคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายปิยะพงษ์ สมโคตร ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอกุฉินารายณ์ นายสิงหนาท ราชภัณฑารักษ์ หัวหน้าสนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ สาขากุฉินารายณ์ พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ นายภิรมย์ อุทรักษ์ นายกอบต.นาไคร้ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด คณะกรรมการกิ่งกาชาดกุฉินารายณ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาขากุฉินารายณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนนำเครื่องอุปโภค บริโภค และน้ำดื่มมอบให้กับครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนจากบ้านเรือนถูกไฟไหม้ทั้ง 6 หลังคาเรือน
โดยนายภิรมย์ อุทรักษ์ นายกอบต.นาไคร้ ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาสถานที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับครัวเรือน พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายตามระเบียบ ซึ่งเสียหายทั้งหลังเบื้องต้นจะได้รับการช่วยเหลือ 49,500 บาท แต่หากเกินขีดความสามรถก็ให้รายงานไปยังอำเภอ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
สอบถามนายคาด ขัตติบุตร อายุ 58 ปี พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ไม่คาดคิดและเสียใจอย่างมากที่ลูกชายมาก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาลูกชายแม้จะมีอาการหลอน เนื่องจากเคยเสพยาเสพติด และมักจะดื่มสุรา แต่ก็พูดจากันรู้เรื่อง และไม่เคยไปทำร้ายใคร กระทั่งมาก่อนเหตุสร้างความเสียหายอย่างมาก อยากขอโทษแทนลูกชายกับญาติๆด้วย ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่
ด้านนายนุช นิลโคตร อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.6 บ้านห้วยแดง หนึ่งในผู้เสียหายบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะทำให้ทรัพย์สินของตนถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เฉพาะเงินสดที่เก็บหอมรอมริบมากว่า 3 แสนบาทก็ถูกไหม้จนหมดเนื้อหมดตัว สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นเป็นหลานแท้ๆของตน ซึ่งปกติจะพักอาศัยอยู่ที่กระท่อมทุ่งนา เพราะมีอาการหลอน บอกว่ามีคนมีพูดกระซิบที่หูว่าจะมาทำร้าย และแสดงอาการผิดปกติ อาละวาดทำลายข้าวของ เนื่องจากเสพยาเสพติด ซึ่งวันเกิดเหตุไม่คาดคิดหลานชายจะกลับมาที่บ้านแล้วก่อเหตุจุดเผาบ้านจนลุกลามเสียหายดังกล่าว
ขณะที่พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ พร้อมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อย่างละเอียด พบว่าเกิดจากการจุดไฟเผา ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ วันนี้ ร.ต.อ.วีรวัฒน์ หิรัญภิงคา พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้สอบปากคำนายปนัสชัย ขัตติยะบุตร อายุ 38 ปี ซึ่งล่าสุดสามารถพูดจาโต้ตอบรู้เรื่องแล้ว พร้อมกับร้องไห้สำนึกผิด ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นคนจุดไฟเผาบ้านของพ่อจริง โดยก่อนเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไป 2 เม็ด แต่ไม่ได้ดื่มเหล้า ก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนมีคนด่าและต่อว่าว่าไม่ทำงานก้องอยู่ในหู นึกว่ามีคนด่าจริงๆในขณะนั้นตนจึงเกิดความน้อยใจ จึงขี่รถจยย.ไปที่บ้านก่อนจะจุดไฟเผาที่นอน 2 ของบ้าน และวิ่งลงมา กระทั่งไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและไฟไปยังบ้านญาติๆดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตนสำนึกผิดแล้ว อยากฝากขอโทษเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องด้วยที่ทำความเดือดร้อนให้
อย่างไรก็ตามหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเสร็จแล้ว และได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยแจ้งข้อหาเบื้องต้นวางเพลิงเผาทรัพย์ในครัวเรือนและ เสพยาบ้าเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)