เผยเริ่มฉีด 1 มี.ค.นี้ พร้อมกันใน 13 เขตพื้นที่ พร้อมประกาศหากมีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายให้ดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากที่มีข่าวนายกรัฐมนตรีและตัวเองจะฉีดวัคซีน COVID-19 ในวันที่ 27 หรือ 28 ก.พ.นี้ว่า ตามที่เคยประกาศไว้ เรื่องนี้ได้ให้นพ.โสภณ เมฆธน ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนกำหนดวันเพื่อป้องกันคำครหา ซึ่งแม้ว่าผู้นำโลกจะฉีดวัคซีนกันแล้ว โดยจะมีคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นผู้ตัดสินใจ
ส่วนกรณีการนำเข้าวัคซีนแอสตราเซเนก้า 117,000 โดส เป็นส่วนหนึ่งในสัดส่วนของวัคซีนที่ไทยสั่งซื้อรวม 61 ล้านโด้ส ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาของปลัดก.สาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค และผอ.สถาบันวัคซีนฯ เพื่อเป็นแผนสำรองลบข้อครหาว่าล่าช้า ไม่มีแผนสำรอง โดยการจะนำเข้าจากประเทศใด ไม่ใช่ประเด็น แต่ได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ ภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนโควิดได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอนของอย.
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีสื่อต่างชาติกล่าวถึงตลาดนัดจตุจักรเป็นต้นตอแพร่โควิดว่า เชื้อโควิดได้ระบาดไปทั่วโลกแล้วจึงไม่มีประโยชน์ที่จะหาต้นตอการแพร่ระบาด ทางเดียวคือควรควบคุมโรคให้หมดไป ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนระดับเขต ให้เป็นอำนาจคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยเริ่มฉีด 1 มี.ค.นี้ พร้อมกันใน 13 พื้นที่ โดยเน้นย้ำสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ในเรื่องความปลอดภัยและความโปร่งใสของวัคซีน หากมีการแอบอ้างเรียกเก็บค่าฉีดวัคซีน ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที เพราะฉีดฟรีให้กับประชาชน