นาย สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า... โทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง หลายคนสงสัยว่า ทำไม คำพิพากษาของศาลอาญา จึงมีบางคนถูกตัดสิทธิทางการเมือง และบางคนไม่ถูกตัดสิทธิและทำไมถูกตัดสิทธิแค่ 5 ปี ทีธนาธรยัง 10 ปีเลย
ขอเล่าให้ฟังว่า ข้อกล่าวหาที่กลุ่มคุณสุเทพโดน เป็นทั้งความผิดตามกม.อาญา และ ความผิดตาม พรป.ส.ส./ส.ว. ปี 2550 ซึ่งเฉพาะความผิดใน พรป. ส.ส. เท่านั้นที่มีโทษตัดสิทธิทางการเมือง
มาตรา 76 ของ พรป.ส.ส. ปี 2550 (ไม่ใช้ฉบับปัจจุบันปี 2561 เนื่องจากเป็นความผิดในปี 2557) ระบุว่า ใครขัดขวาง หน่วงเหนี่ยวคนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องระวางโทษตามมาตรา 152 คือ จำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
ดังนั้นคนที่ถูกฟ้องตาม พรป.ส.ส.เท่านั้นที่จะถูกตัดสิทธิเลือกตั้งซึ่งหมายถึงสิทธิทางการเมืองอื่นๆด้วย เป็นเวลาห้าปี ซึ่งถือว่าเป็นโทษในขณะนั้น
ปัจจุบันความผิดแบบนี้ คือ มาตรา 100 ของพรป.ส.ส.ฉบับปัจจุบัน ซึ่งมีมีการปรับโทษใหม่ตามมาตรา 164 โดยเพิ่มเป็นเพิกถอนสิทธิ 10 ปี
คดีการขัดขวางคนไปใช้สิทธิ กกต.ในยุคนั้นยังได้ขอให้ กกต.จังหวัด ฟ้องในทุกจังหวัดที่มีการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งศาลน่าจะได้ตัดสินไปหมดก่อนหน้านี้แล้ว
คดี กปปส.คงเป็นบทเรียนว่า ท่านชุมนุมได้เป็นเสรีภาพ แต่ท่านทำผิดกฎหมายไม่ได้ การได้รับโทษทัณฑ์ดังกล่าว ศาลได้ตัดสินตามข้อเท็จจริงที่อัยการนำเสนอ แม้จะล่าช้ากว่า 7 ปีก็ตาม
ยังอุทธรณ์ได้ แต่สำหรับผู้มีตำแหน่งทางการเมือง เมื่อถูกตัดสิทธิทางการเมืองแล้วถือว่าต้องถือว่าจบครับ