เมื่อวันที่ 24 ก.พ.นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีส.ส.โหวตแหกมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า เมื่อประชาชนเป็นผู้เลือกส.ส.ให้เข้ามาเป็นตัวแทนของเขาเพื่อไปทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติในสภาฯแทนพี่น้องประชาชน ถ้าไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีหรือฝ่ายบริหาร ส.ส.ก็จะต้องตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารแทนประชาชน เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติเห็นว่ารัฐมนตรี หรือนายกฯทำงานมีอะไรแอบแฝง หรือส่อไปในทางที่จะทุจริต หรือทุจริตเงินงบประมาณ หรือการโยกย้ายข้าราชการ หรือทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง โดยเฉพาะในการดูแลสารทุกย์สุกดิบของพี่น้องประชาชน จะต้องถูกตรวจสอบจากส.ส.ในสภาฯ ถ้าชี้แจงไม่เคลียร์ ฝ่ายส.ส.เขาก็มีเอกสิทธิ์ที่จะไม่โหวตให้ หรืองดออกเสียง ถึงแม้จะเป็นพรรคเดียวกันก็ตาม อย่าเอาระเบียบพรรคมาบีบลูกพรรค ซึ่งไม่ถูกต้องตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญและความรู้สึกของประชาชน คณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ในพรรค ควรจะมีจิตสำนึกของคำว่าผู้แทนราษฎร ที่ชอบพูดว่าได้รับเลือกตั้งมาจากพี่น้องประชาชน มีสิทธิ์ต่างๆค่าเดินทางฟรี ค่าตอบแทนต่างๆโดยภาษีของประชาชนที่เสียให้รัฐทั้งสิ้น
“สมัยที่ผมเป็นส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยโหวตสวนมติพรรคในเรื่องสำคัญคือ ครั้งนั้นพรรคต้องการให้โหวตหนุนให้คนเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้เป็นตลอดชีพจนถึงอายุ60ปี แต่ชาวบ้านในเขตเลือกตั้งผมสะท้อนปัญหาว่าจะเป็นการผูกขาดอำนาจ อยู่ในตำแหน่งยาวนานเกินไป หากผู้นำชุมชน หมู่บ้านไม่ดี ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลง ต้องการให้อยู่ในวาระแค่5 ปีแล้วเลือกใหม่ ผมก็โหวตสวนมติพรรค ยึดตามความต้องการของขาวบ้านที่เลือกเรามาเป็นผู้แทนฯ ถ้าพรรคการเมืองใดที่มีปัญหาเหล่านี้ ผมขอให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศลงโทษ โดยการไม่ลงคะแนนให้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือถ้ามีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ก็ขอให้อย่าลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองที่มีปัญหา ทรยศต่อความต้องการของประชาชน โดยการลงโทษสั่งสอนให้สูญพันธ์ุไปเลย” นายประมวล กล่าว