ปชช. และผู้สูงอายุชาว จ.บุรีรัมย์ ยังแห่มาเข้าคิวรอลงทะเบียน "เราชนะ" สำหรับกลุ่มพิเศษที่ไม่มีสมาร์ทโฟนแน่นหน้าธนาคารกรุงไทย ลูกหลานบางคนถึงกับต้องลางานเพื่อพาพ่อแม่ ตายาย มารอลงทะเบียนเพื่อหวังได้เงินเยียวยา 7,000 บาทนำไปใช้จ่ายแบ่งเบาภาระครอบครัว ชี้กลุ่มผู้สูงอายุควรให้ ผญบ.สำรวจยืนยันตัวตนส่งให้ธนาคารไม่ต้องมาลำบากนั่งรอเดินเหินก็ลำบาก
วันนี้ (23 ก.พ.64) ประชาชน และผู้สูงอายุ จากหลายตำบล ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ที่ยังไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ได้ เนื่องจากไม่มีสมาร์ทโฟน และบางคนก็ยืนยันตัวตนไม่ผ่าน ก็ยังพากันมาเข้าคิวรอลงให้เจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยลงทะเบียนให้ ตั้งแต่ก่อนที่ธนาคารจะเปิดทำการอย่างคึกคักหลังจากที่กระทรวงการคลังได้ขยายเวลาให้สามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 5 มี.ค.2564 ขณะที่ลูกหลานบางคนถึงกับต้องยอมลางาน เพื่อพาพ่อแม่ ตายายที่แก่ชรา มานั่งรอคิวลงทะเบียนตั้งแต่เช้าเช่นกัน เพราะหวังว่าพ่อแม่ และตายาย ที่แก่ชราไม่สามารถทำงานได้แล้ว จะได้รับเงินเยียวยา 7,000 บาทจากรัฐ เพื่อนำไปใช้จ่ายแบ่งเบาภาระในครอบครัว
น.ส.นิด แซ่เล้า อายุ 49 ปี บอกว่า วันนี้ต้องหยุดยาวพาแม่ อายุ 74 ปี มานั่งรอที่หน้าธนาคารตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อจะให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยลงทะเบียนให้ “เราชนะ” ให้ เพราะคุณแม่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ก็หวังว่าจะได้รับเงินเยียวยา 7,000 บาท เพื่อจะได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายแบ่งเบาะภาระในครอบครัว เพราะหลังจากเจอโควิระบาดตนก็ขายของแทบไม่ได้ ซึ่งโครงการที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือ ถือเป็นโครงการที่ดีสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่ยอมรับว่า ขั้นตอนการดำเนินการยุ่งยากมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
จึงอยากฝากให้หน่วยงานรัฐได้ใช้วิธีให้ผู้ใหญ่บ้านหรือผู้นำชุมชนสำรวจรายชื่อผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยา แล้วส่งชื่อให้กับธนาคารหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้สูงอายุมาลำบากนั่งรอแบบนี้ลำพังเดินเหินก็ลำบากอยู่แล้ว