เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง นครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และ ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโคราช ร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรมและนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรณีวิทยามหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยาเพื่อการท่องเที่ยว ครั้งที่ 7โคราช จีโอพาร์ค เฟสติวัล" ระหว่างวันที่ 26 - 28 กุมภาพันธ์ กิจกรรมและนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาในพื้นที่ศักยภาพอุทยานธรณี โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ประกอบด้วย กิจกรรมท่องเที่ยวโคราชจีโอพาร์ค ผ่านบูธนิทรรศการ "ท่องเที่ยวอุทยานธรณีโคราช" และ "ท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ ด๊ะดาดในอิสาน" กิจกรรมประกวด "แฟนซีจีโอพาร์ครักษ์โลก" เน้นความสร้างสรรค์และความสวยงาม พร้อมรับรางวัล ชมห้องปฏิบัติกรด้านซากดึกดำบรรพ์ และสวนไม้กลายเป็นหิน "ถนนเดินกะหมู่ ดูตลาดอุทยานธรณี" มีการจัดจำลองวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นอุทยานธรณีโคราช มีอาหาร และสินค้าผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาอุทยานธรณีโคราชที่นำเอาความโดดเด่นทางธรณีวิทยา มาดัดแปลงให้เป็นสินค้าผลิตภัณฑ์อุทยานธรณีโคราช กิจกรรมประกวดวาดภาพภายใต้หัวข้อ "ช้างสี่งาชูตระหง่าน ไดโนเสาร์อลังการสู่อุทยานธรณีโลก" การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้เข้าร่วมงาน นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รงอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมา มีความโดดเด่นทางด้านธรณีวิทยาที่สำคัญ และได้รับการขนานนามว่าเป็น ดินแดนแห่งเทือกเขาเควสต้าและฟอสซิล เนื่องมาจากมีความหลากหลายทางชีวภาพของฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม พบช้างดึกดำบรรพ์มากที่สุดในโลกถึง 10 สกุลจาก 55 สกุลของโลก รวมทั้งยังพบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลก 4 สกุล พบแหล่งฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน และยัง มีภูมิประเทศเขาเควสต้าหินทรายคู่ขนาน และมีความยาวถึง 1,640 กิโลเมตรผ่านประเทศไทย สปป.ลาวและกัมพูชา อุทยานธรณีโคราช เป็นอุทยานธรณีระดับประเทศแห่งที่ 2 มีความโดดเด่นหลากหลาย ทั้งลักษณะภูมิประเทศเควสต้าหรือเขารูปอีโต้ ที่มีการยกตัวของที่ราบสูงโคราช ก่อให้เกิดภูมิประทศที่สวยงาม นอกจากนี้ แหล่งซากดึกดำบรรพ์ได้รับการรับรองโดยการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซากดึกดำบรรพ์ช้างโบราณ ซึ่งมีความหลากหลาย โดยพบมากที่สุดถึง 10 สกุล ได้แก่ โปรไดโนธีเรียม ไดโนธีเรียม กอมโฟธีเรียม เตตระโลโฟคอน ไซโนมาสโตดอน โปรตานันดัส สเตโกโลโฟดอน สเตโกดอน ไซโกโลโฟดอนและเอลีฟาส รวมทั้ง การค้นพบฟอสซิลสัตว์สกุลชนิดใหม่ของโลก หลายชนิด อาทิ จระเข้ แรดไร้นอ ลิงไม่มีหาง เต่า และ ไดโนเสาร์ ซึ่งแหล่งไดโนเสาร์ มีการพบฟอสซิล มากกว่า 1,000 ชิ้น ฟัน มากกว่า 300 ชิ้น พบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลก 4 สกุล มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ราชสีมาซอรัส สุรนารีเอ สยามโมดอน นิ่มงามมิ (Siamodon nimngami) สิรินธรน่า โคราชเอนซิส (Khoratous jintasakuli)" และสยามแรปเตอร์ สุจน์ติ (Siamraptor suwati )